สอยเป็นการเล่นสนุกทางภาษาอย่างหนึ่งของชาวอีสาน ประวัติการเล่นสอยก็ไม่มีใครเขียนไว้เข้าใจว่า จะเกิดมาพร้อมกับหมอลำคู่หรือ “หมอลำกลอน”เพราะขณะที่หมอลำกลอนแสดง “การลำ”อยู่หรือลำจบกลอนหนึ่ง ๆ หมอสอยจะทำการสอยขึ้นทันที ดังนั้น การสอยจึงเป็นการเชื่อมโยงให้การลำกลอนมีรสชาติเพิ่มขึ้นนั้นเอง ซึ่งเป็นกุศโลบายที่ชาญฉลาดเพราะเป็นการสร้างบรรยากาศให้ครึกครื้นขึ้นไปอีก บางท่านจึงสันนิษฐานว่าสอยคงมาจากสร้อยคือเป็นสร้อยของกลอนลำ ตามปกติถ้ามีหมอลำที่ไหนจะมีหมอสอยไปสมทบด้วยเสมอหรืออาจจะเรียกว่าเป็นหางเครื่องของหมอลำก็ได้ ถ้ามีหมอลำไม่มีหมอสอยดูจะไม่สนุกเต็มที่นัก คำว่า “หมอ”ในภาคอีสานหมายถึง ผู้มีความรู้ความถนัด ชำนาญในทางใดทางหนึ่งโดยเฉพาะ เช่น หมอลำ (ชำนาญในการลำการแอ่ว) หมอแคน (เป่าแคนเก่ง) หมอมอ (หมอดู) หมอเอ็น (หมอนวด) หมอมวย (นักมวย) เป็นต้น
การสอย เป็นเรื่องของการสมัครเล่น ใครจะอุปโลกน์ตัวเองเป็นหมอสอยก็ได้ ไม่บังคับจะเป็นชายหญิงได้ทั้งสิ้น แต่ต้องรู้จังหวะในการสอย คือ ขณะที่หมอลำกำลังทำการลำ ผู้ชมกำลังตั้งหน้าตั้งตาดูการแสดงของหมอลำอย่างใจจดใจจ่อ หมอสอยจะฉวยโอกาสตอนนั้นทำการ “สอย”ทันที คือต้องเลือกจังหวะการสอยให้ดีด้วย ถ้าหมอสอยลำกลอนธรรมดา เช่น กลอนเดินดง กลอนเกี้ยว หมอสอย ก็จะสอยโดยใช้คำสอยธรรมดาไม่โลดโผน แต่ถ้าเป็นช่วงที่หมอลำเต้ย และหมอลำชายหญิงฟ้อนทั้งสองคน ที่เรียกว่า “ฟ้อนเกี้ยวกัน”หมอสอยและผู้ชมจะคึกคะนองมาก เพราะตอนฟ้อนเกี้ยวกัน นี้เป็นตอนที่หมอลำคู่แสดงบทบาทออกมาเต็มที่ หมอแคนก็เป่าแคนจังหวะกระชั้นถี่เร่งเร้าคึกคักเป็นพิเศษ หมอลำทั้งคู่วาดลวดลายการฟ้อนที่ได้ร่ำเรียนมาในยุทธจักรการฟ้อนอย่างสุดเหวี่ยง หมอลำผู้ชายอาจจะฟ้อนจก ฟ้อนแหย่ ขยับปลายนิ้วผลับ ๆ พร้อมทั้งทำไม้ทำมือท่าทางแปลก ๆ ให้ถูกใจคนดู หมอลำผู้หญิงก็อาจทำท่าง้างศอก ขึ้นเข่า หรือเหวี่ยงส้นเท้า(แต่ไม่ถูก) การ “ฟ้อนเกี้ยวกัน”นี้เอง หมอสอยจะระดมการสอยอย่างออกรสออกชาติเป็นพิเศษเหมือนกัน มีคำสอยอะไรดี ๆ ก็นำมาว่าตอนนี้ คนดูทุกคนมีสิทธิที่จะสอยได้ทั้งนั้น ไม่จำกัดเพศและวัย แต่ส่วนมากจะเป็นผู้ชายบางคนมีความกล้าไม่มากก็บังหลังเพื่อนสอย บางคนก็ยืนขึ้นสอย ถ้ากล้าหน่อยก็เดินไปสอยใกล้ ๆ ฮ่านหมอลำ(เวที) ถ้ากล้ามาก ๆ ก็จะกระโดดขึ้นไปสอยใส่หมากอะโหล (microphone) บนฮ่านหมอลำเลยทีเดียว
จุดประสงค์ของการสอย จุดประสงค์ที่สำคัญเพื่อความสนุกสนาน ครึกครื้น เพื่อทำลายความเงียบขณะที่หมอลำกำลังลำ การสอยจะเกิดขึ้นเมื่อผู้ดูหมอลำมีอารมณ์ร่วมสนุกสนาน หรือบรรจุถึงจุดสนุกเต็มที่ (Climax) สังเกตได้ง่าย ๆ ว่าผู้ดูสนุกเต็มที่ตอนไหน อย่างไร คือดูที่การโห่ การฮา คนอีสานถ้าสนุกถึงใจแล้วจะเปล่งเสียงฮาแล้วลงท้ายด้วย ฮิ้ว หรือ ปี๊บ เสมอ การฮาที่ลงท้ายด้วยเสียงฮิ้ว หรือปี๊บนี้ เข้าใจว่าคงจะมีแต่ชาวอีสานเท่านั้นในโลกนี้ในชุมชนหนึ่ง ๆ ตามชนบทจะมีหมอสอยที่ถือว่าเป็นหมอสอยประจำไม่กี่คน แต่หมอสอยสมทบนั้นมีมากหมอสอยประจำมักเป็นผู้สัดทัดกรณีจริง ๆ เจ้าบทเจ้ากลอน เป็นคนมีรูปร่างหน้าตาแปลก ๆ สามารถทำเสียงสัตว์ได้แล้ว ก็ยิ่งเป็นการส่งเสริมบางแห่งในชนบทมีหมอสอยอาชีพคือ สอยเก่งจริง ๆ มีคำสอยเป็นร้อย ๆ กลอนสอยทั้งคืนก็ไม่หมด และเป็นคำสอยที่เด็ด ๆ ทั้งนั้นโดยไม่ซ้ำกัน หมอสอยอาชีพจะถูกศรัทธา(เจ้าภาพของงาน) จ้างไปสอยในงานที่มีหมอลำเรียกว่า “สอยใส่หมอลำ”ค่าจ้างก็ไม่แพง อย่างมากก็คืนละ สี่ห้าร้อยบาท หมอสอยก็เต็มใจเพราะจะได้แสดงเต็มที่ รวมทั้งได้รับความสนุกสนานไปด้วย
สอย...สอย
ลูกสาวเพิ่นบ่คือลูกสาวโต
ลูกสาวเพิ่นผู้งามพาโล
หรือเพิ่นท่องนะโมบ้อ ยามเพิ่มสิเด้า นี่...กะสอย
สอย...สอย
ผักกะเดากินกับลาบนกขุ่ม
สี่กันแล้วตุ้มผ้า เหงื่อแตกหน้าแตกหลัง นี่...กะสอย
สอย...สอย
เฒ่าสิตายบ่ฮู้จักความ
ห่มผ้านวมสี่กันอยู่จ๊ะ ๆ
สอย...สอย
นกขุ่มหลี่สี่นกขุ่มไฟ
เมียอยู่ไฟสี่แม่เฒ่าถ่า
สอย...สอย
สาวสำน้อยบ่ฮู้จักหลอดนีออน
บาดเขาพาขึ้นเตียงนอน แหมหลอดนีออนยาวจัง
นกไก่นาขาเหลืองอ่อยฮอย
สี่หีจ่อยปานว่าฟักเขียงเปล่า นี่...กะสอย
เซิ้บ...เซิ้บ
ผักกะเดากินกับลาบไก่
ผู้ใด๋หีใหญ่บ่ให้มันกิน นี่...กะสอย
เซิ้บ...เซิ้บ
ไข่เอ๋ยไข่ ไข่นกเขากะเอิ้นไขนก
ไข่เป็ดเขากะเอิ้น ไข่เป็ด
ไข่ไก่ เขากะเอิ้นไข่ไก่
บัดไข่คนมาจังไร สังมาเอิ้นไข่หำ
เซิ้บ...เซิ้บ
นกขี่ถี่สี่ต้างห้าต้าง
หมอยแม่ฮ้างปานเชือกผูกม้า
ม้าเล่นหนีหมอยหีหยืดหย้าว....