พ่อท่านนุ้ย เดิมชื่อนายนุ้ย เกิดเมื่อปีขาล เดือน ๘ พ.ศ. ๒๓๙๗ ณ บ้านบางคราม ตำบลปากฉลุย อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี เมื่ออายุ ๗ ขวบ ได้ไปศึกษาอักขระสมัยกับพระอธิการพัด วัดประตูใหญ่ ตำบลเสวียด อำเภอท่าฉาง จังหวัดสุราษฎร์ธานี พออายุ ๑๒ ขวบ ได้บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดแห่งนี้เช่นกัน ต่อมาเมื่อถึงอายุ ๒๑ ปี ได้ญัตติเป็นสามเณรสำเร็จกิจเป็นพระภิกษุ มีพระครูกาแก้วเป็นพระอุปัชฌาย์
ในระหว่างที่ศึกษาปริยัติธรรม ก็ได้ศึกษาวิทยาคมต่างๆ ควบคู่ไปด้วย โดยศึกษาจากอาจารย์หลายๆ ท่าน ไม่ว่าจะเป็น พ่อท่านพัด และพ่อท่านแก้ววัดประตูใหญ่ ตำบลเสวียด อำเภอท่าฉาง พ่อท่านวัดเขาอ้อ ที่สำนักเขาอ้อ จังหวัดพัทลุง จากนั้นได้ศึกษาวิชาปัสสนากรรมฐานและไสยศาสตร์จาก พ่อท่านมน วัดอัมพาราม อำเภอท่าฉาง ซึ่งต่อมาได้เป็นเจ้าอาวาสพ่อท่านมน
ศีลาจารวัตรของพ่อท่านนุ้ย
พ่อท่านนุ้ย เป็นคนใจคอดี เยือกเย็น มีความกรุณา และนอกจากนี้ยังมีศีลาจารวัตรอื่นๆ ได้แก่
๑. สรงน้ำปีละครั้ง พ่อท่านนุ้ย จะทำพิธีสรงน้ำในวันสงกรานต์ ๑๓ เมษายนของทุกปี เพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้นเอง ซึ่งหลายคนเชื่อว่า ท่านเป็น
ผู้ปฏิบัติธรรมในขั้นสูง เจริญด้วยเมตตา และอำนาจฌานสมาธิที่แก่กล้า ทำให้บรรดาสรรพสัตว์ต่างๆ รวมทั้งเชื้อโรคและจุลินทรีย์ไม่กล้าเบียดเบียนท่าน
๒. ชอบฉันผัก พ่อท่านนุ้ยชอบฉันผักต่างๆ หลายคนเชื่อว่า เมื่อมีท่านมีจิตใจที่ใสสะอาด ท่านก็ไม่อยากฉันเนื้อสัตว์ แต่ท่านยังชีพอยู่ได้ด้วยศรัทธา
๓. ชมหนังตะลุงและมโนราห์ เมื่อมีการเล่นหนังและมโนราห์ทุกครั้ง มักจะเกิดการกลั่นแกล้งกันระหว่างนายหนัง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อมีการ
แข่งขันมักจะมีเหตุการณ์ที่ไม่ดีเกิดขึ้น ดังนั้นนายหนังตะลุงและนายโรงมโนราห์จะต้องครอบครูให้ดี มอบตัวกับพระอาจารย์ที่แก่กล้าวิทยาคม เพื่อขอให้
มีบารมีท่านคุ้มครอง พ่อท่านนุ้ยก็มักจะถูกนิมนต์ให้ช่วยให้มโนราห์และหนังตะลุงแสดงให้ชมให้ได้
๔. เล่านิทานและตำนานต่างๆ หากวันใดพ่อท่านนุ้ยว่างจากภารกิจ ท่านมักจะเล่านิทานให้ชาวบ้านและเด็กๆ ฟัง
พ่อท่านนุ้ย มีอายุยืนนานถึง ๑๐๔ ปี โดยถึงแก่การมรณภาพในปี พ.ศ. ๒๕๐๑ นับได้ว่าเป็นการสูญเสียปรมาจารย์ทางด้านไสยศาสตร์ที่สำคัญยิ่ง
ท่านหนึ่ง การนี้ได้มีการเก็บศพไว้บำเพ็ญกุศล ๑ ปีเศษ จึงได้มีการถวายพระเพลิง
อภินิหารของพ่อท่านนุ้ย
๑. สามารถวางองค์ฌานไว้ที่นิ้วทั้งสิบได้
พ่อท่านนุ้ยท่านเป็นผู้สำเร็จฌาน สามารถรู้อะไรได้ทั้งปัจจุบันและอนาคต แต่ท่านจะแปลกกว่าพระอาจารย์ท่านอื่นๆ ตรงที่ท่านสามารถวางฌานไว้
ที่นิ้วทั้งสิบนิ้วได้ เมื่อเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้น หรือเวลาที่มีผู้ป่วยมาเข้ารับการรักษาโรค องค์ฌานที่วางไว้ที่นิ้วจะลื่นกระดกตามชนิดของเหตุหรืออาเพศ
ต่างๆ ที่ผู้ป่วยเป็น ทำให้ท่านทราบได้ทันทีและจะให้การรักษาตามเหตุนั้น
๒. ส่งข่าวสารถึงผี
เป็นกรณีที่มีผู้ป่วยถูกผีเข้า ท่านก็จะเจรจากับผีที่มาเข้าสิง หากผียังคงดื้อดึงท่านก็จะเทศนายกธรรมข้อถึงต่างๆ ชี้ให้เห็นถึงบาปกรรมและผลเสีย
ต่างๆ ที่จะติดตามมา ถ้าเจ้ากรรมนายเวรยินยอมหรือมีข้อต่อรองอย่างไร ท่านจะช่วยเจรจาทั้งสองฝ่าย หากมีความจำเป็นท่านอาจจะต้องใช้วิชาอาคม ปราบผีร่วมด้วย
๓. มีทิพจักษุ
พ่อท่านนุ้ย เป็นคนที่มีจุตุปปาตญาณ คือ มีจักษุทิพย์บริสุทธิ์ มองเห็นหรือรู้เห็นสิ่งต่างๆ ได้ เมื่อมีคนมาหาท่าน ท่านก็จะบอกศิษย์ไว้ล่วงหน้า
แม้กระทั่งของสูญหาย หากบนบานถึงท่านก็จะได้รับคืนมา หากไปให้ท่านช่วยตรวจดูให้ท่านก็จะบอกได้ถูกต้อง
๔. รักษาโรควิกลจริตแบบแปลกประหลาด
การรักษาโรควิกลจริตโดยทั่วไปรักษาโดยการให้กินยา รดน้ำมนต์ เสก พ่นต่างๆ ที่ผู้ป่วย แต่สำหรับพ่อท่านนุ้ยท่านจะรักษาโดยการเดินไปจับ หัวบันไดกุฏิและเดินรอบๆ ๓ รอบ จากนั้นก็ใช้เท้าถีบศีรษะผู้ป่วย ทำให้ผู้ป่วยหายจากอาการวิกลจริต ตัวอย่างการรักษาหลานท่านเจ้าคุณธรรมเจรี เกจิอาจารย์ชื่อดังจากอำเภอหลังสวน ที่รักษาที่ไหนไม่ได้ แต่พ่อท่านนุ้ยสามารถรักษาให้หายได้ จึงถวายตู้เก็บหนังสือเอาไว้ ตอนนี้ถูกเก็บรักษาไว้ที่วัดอัมพาราม หรือวัดมะม่วง
๕. ทดสอบอำนาจฌานศิษย์ผู้น้อง
มีอยู่คราวหนึ่ง พ่อท่านนุ้ยได้เล่นหมากรุกกับพ่อท่านด้วน วัดแหลมไผ่ อำเภอพุนพิน ซึ่งเป็นศิษย์ผู้น้อง รวมเวลาถึง ๓ วัน ๓ คืน โดยไม่ได้นอน
แต่ทั้งสองก็ไม่มีอาการอ่อนเพลียเลยแม้แต่น้อย แสดงว่าท่านทั้งสองบรรลุธรรมชั้นสูงแล้ว
๖. ตัวสูงใหญ่จนหัวจรดเพดานกุฏิ
บางครั้งท่านจะขยายตัวสูงใหญ่ หัวจรดเพดานกุฏิ หากมีอารมณ์ดีสบายใจท่านก็จะขยายตัวสูงใหญ่จนเดินติดประตูแล้วเรียกบอกลูกศิษย์ว่า
ออกไม่ได้ หรือแม้กระทั่งเวลาที่มีคนจะมาขโมยของท่าน ท่านก็จะทำให้ตัวพองใหญ่จนขโมยกลัวแล้วหนีไป
๗. ห้ามปืน
เนื่องจากที่ท่านเป็นผู้ที่รักสงบ ชอบความวิเวก เมื่อมีผู้ทำให้เกิดเสียงดังอึกทึก ท่านไม่พอใจจึงใช้อาคม สะกดปืนไม่ให้ยิงออก สะกดประทัด
ไม่ให้ระเบิด
๘. อนุภาพของการลงตะกรุด
อนุภาพของตะกรุดที่ได้รับการร่ำลือมาก เป็นตะกรุดที่ท่านเขียนถูกนิมนต์ให้ร่วมงานบวชที่วัดท่ารอ โดยทางเรือ ก่อนถึงท่าน้ำวัดท่ารอ มีการ
ยิงปืนไปในทางทิศทางตรงกับที่พ่อท่านนั่งเรือถึง แต่ปรากฏว่าปืนยิงไม่ออก แต่เมื่อท่านผ่านประจวบกับเขียนตะกรุดเสร็จปืนก็ยิงออก ซึ่งตะกรุดของ
ท่านเมื่อโยนเข้าเตาหลอมก็ทนไฟ ไม่ไหม้ด้วย
๙. ล่องหนหายตัวได้
พ่อท่านนุ้ยสามารถที่จะกำบังกายล่องหนหายตัวได้ ซึ่งท่านได้ทำให้ปรากฏแก่ศิษย์ ตลอดจนผู้ที่พบปะท่านเป็นประจำ นอกจากนี้ท่านจะมีวิธีการ
รักษาผู้ที่ถูกงูกัดแบบแปลก โดยการเสกเบี้ยชวาสองตัวแล้วโยนไปตามอากาศ เบี้ยชวาคู่นี้จะหายลับไปกับตา ประเดี๋ยวจะมีงูกัดผู้ที่มารักษาตกลงมา
ตรงหน้า โดยมีเบี้ยชวาทั้งสองตัวประกบด้านซ้ายด้านขวามาด้วย จากนั้นท่านจะใช้พระเวทย์บังคับงูพิษคลานเข้าไปดูดพิษจากบาดแผลผู้ที่ถูกงูกัด ผู้ป่วย
ก็จะพ้นจากอันตรายจากเจ้างูพิษได้
๑๐. ปราบพระทุศิ่ลโดยเสกกระต่ายให้นั่ง
ด้วยอำนาจฌานบารมีแห่งการสำเร็จ เมื่อพ่อท่านนุ้ยสามารถล่วงรู้เหตุการณ์ต่างๆ ได้ พระสงฆ์ในวัดจึงจำเป็นต้องมีคุณธรรมในความเป็นพระ
ห้ามด่างพร้อย หากผู้ใดทุศิ่ล ท่านก็จะให้นั่งขูดบนกระต่ายขูดมะพร้าว เมื่อลงไปแล้วจะแกะกระต่ายไม่ออก
๑๑. ลงอาถรรพณ์ป้องกันภัย
เหตุร้ายต่างๆ ที่เกิดขึ้นกับเราจะเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถจะห้ามได้ แต่บางครั้งบางคราวก็ทำให้เกิดความสูญเสียมากมายจนยากจะเยียวยา
ฉะนั้น ชาวบ้านที่เสื่อมใสท่านโดยหวังพึ่งบุญบารมีที่ท่านมีช่วยสร้างเครื่องรางของขลัง เพื่อป้องกันเหตุเภทภัยต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น
๑๒. การทำพิธีชุบตนเกิดใหม่
พิธีชุบตนเกิดใหม่ เป็นการทำให้ผู้ที่มีชีวิตที่อับเฉาเปลี่ยนเป็นคนที่มีความเจริญรุ่งเรือง เพราะบุญบารมีของท่าน จะช่วยเสริมบุญให้ผู้ที่ทำพิธี ชุบตนเกิดใหม่ดีขึ้น
ในปัจจุบันมีประชาชนชาวคลองไทรและลูกศิษย์พ่อท่านนุ้ยได้สร้างมณฑปเพื่อประดิษฐานรูปปั้นไว้เป็นที่สักการบูชาไว้ในบริเวณวัดอัมพาราม