ประวัติและปฏิปทา..หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต..วัดป่าคูณคำวิปัสสนา..อ.กุดบาก.. จ..สกลนคร..
ชาติภูมิ
หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต..นามเดิมชื่อ..สุพัตร..ไพคำนาม..เกิดเมื่อวันที่..๒..มิถุนายน..พ.ศ. ๒๕๑๑..บิดาชื่อ..นายบุญทัน..และมารดาชื่อ..นางวอน..ไพคำนาม..การศึกษา..ประถมการศึกษาปีที่ ๖
อุปสมบท..
หลวงปู่ขาวได้เข้าอุปสมบท เมื่อวันที่ ๓๐ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๓๐ ณ วัดสุมังคลาราม ต. พังข้วาง อ.เมือง จ. สกลนคร โดยมีพระราชวิมลมุนี เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการประสิทธิ์ จักกะธัมโม เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระบรรยง โรจโน เป็นพระอนุสาวนาจารย์.
ปาฏิหารย์ หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต…
ปาฏิหารย์ด้านต่าง ๆ ของหลวงปู่ขาว ซึ่งได้รับการเปิดเผยจากลูกศิษย์ใกล้ชิด (อาจารย์พิทักษ์) เช่น....... การล่วงรู้ลางหน้าต่าง ๆ เช่นเวลาจะมีใครไปหาท่าน ๆ จะบอกให้ลูกศิษย์หรือพระเณรจัดเตรียมส่งของ.ไว้ต้อนรับและบอกว่าคนนั้น คนนี้จะมาหาท่านซึ่งเมื่อถึงเวลาก็มีผู้มาหาตามที่ท่านบอกทุกอย่างโดยไม่มีการนัดหมายมาก่อน.
“มีอยู่ครั้งหนึ่งมีพระชรามาจากประเทศลาวตั้งใจจะมาสนทนาธรรมกับท่าน แต่เมื่อเข้าไปในกุฏิหลวงปู่ต่อหน้าหลวงปู่แล้ว กลับลุกขึ้นวิ่ง หนีออกจากกุฏิดังกล่าว โดยไม่ทราบสาเหตุ ซึ่งต่อมาภายหลังได้.......สอบถามกับพระรูปนั้นจึงทราบว่าที่ท่าน ลูกขึ้นวิ่งหนี เนื่องจากเห็นงูใหญ่ ๒ ตัว เลื้อยออก มาจากใต้.....ธรรมมาส ซึ่งทําจากกระดูกช้างที่หลวงปู่ขาวนั่งอยู่ และตรงจะเข้าทําร้ายจึงเกิดความตกใจและวิ่งหนี.... ดังกล่าว โดยขณะนั้นมีชาวบ้านนั่งอยู่ หลายคน แต่ไม่มีผู้ใดมองเห็นงูที่ว่าแต่อย่างใด”………………… ……..
สําหรับประวัติหลวงปู่ขาวนี้ อาจารย์พิทักษ์เปิดเผยว่า เมื่อครั้งที่ตน เป็นครูอยู่ที่ ร.ร.บ้านกลาง ต.กุดไห เด็กชายขาว ได้เป็นลูกศิษย์ของคนคนหนึ่ง ซึ่งขณะที่เรียนหนังสือนั้น ด.ช.ขาวเรียนหนังสืออ่อนมาก อ่านหนังสือก็แทบไม่ ออกเขียนหนังสือก็ไม่ได้ แต่ต่อมาเมื่อตนมาพบอีกทีเมื่อเป็นพระแล้วกลับอ่าน ออกเขียนได้คล่อง ซึ่งหลวงปู่เคยเล่าให้ฟังว่าได้นอนหลับและนิมิตว่าได้พบโยคีชราตนหนึ่ง และโยคตนนั้นได้ถามหลวงปู่ว่าอยากอ่านหนังสือได้เขียน หนังสือได้หรือไม่ ซึ่งหลวงปู่ก็ตอบว่าอยาก โยคีตนนั้นจึงได้เข้ามาเป่าที่ กระหม่อมหลวงปู่ ๓ ครั้ง หลังจากตื่นขึ้นจึงอ่านออกเขียนได้ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
อย่างไรก็ตามวัตถุโบราณทุกชิ้นยังไม่ได้รับการตรวจสอบเพื่อขึ้นบัญชี จากกรมศิลปากร แต่อย่างไร ซึ่งหลวงปู่ขาวกล่าวว่า หากทางเจ้าหน้าที่ ต้องการจะมาดูเพื่อตรวจสอบก็ไม่ขัดข้อง..................................
ประวัติ วัดป่าคูณคําฯ แต่เดิมประมาณปี พ.ศ.๒๔๙๒ พระอาจารย์ทองคํา ได้ธุดงค์ผ่านมาเพื่อปฏิบัติ....ธรรม บริเวณที่เป็นวัดขณะนี้เป็นที่ดินสงวน แต่ เมื่อพระอาจารย์ทองคําปฏิบัติธรรมได้ ๑ เดือนชาวบ้านจึงช่วยกันสร้างกุฏิเพื่อให้อาจารย์ทองคําจําพรรษา หลังจากช่วงเข้าพรรษาผ่านไปพระอาจารย์ทองคํา จึงเดินธุดงค์ไปที่อื่นสถานที่แห่งนั้นจึงเป็นที่รกร้างต่อไป………………………………………………………………………...
ต่อมาปี พ.ศ.๒๔๙๘ หลวงพ่อผัน ได้มาพักปฏิบัติธรรมประมาณ ๔-๕ เดือน แล้วก็ธุดงค์ต่อไป แต่ก็ยังมีพระธุดงค์อีกหลายรูปผ่านมาปฏิบัติธรรม ซึ่งก็ยัง ไม่มีพระรูปใดอยู่ตลอด
ในปี พ.ศ.๒๕๒๖ หลวงพ่อซ้อนได้มาปฏิบัติธรรมที่นี่ แต่เนื่องด้วยยังเป็นเณร จึงอยู่ได้ไม่นาน บริเวณนี้จึงต้องรกร้างอีกครั้ง
จนถึงปี พ.ศ.๒๕๒๘ หลวงพ่อเบี้ยว ฐานวิโร (อดีตประธานสงฆ์) ได้พิจารณาพื้นที่แห่งนี้ว่ามี ความสงบวิเวก เหมาะแก่การปฏิบัติธรรม จึงได้ชักชวนญาติโยมหลายคนมาช่วยกันตั้งเป็นสํานักสงฆ์ขึ้น สร้างกุฏิ ขยายออกไป ตรงกับวันที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๒๘ และได้ปฏิบัติธรรม ณ ที่นี่ตลอดมา..............................
จนกระทั่ง เมื่อ พ.ศ. ๒๕๓๓หลวงปู่ขาวหรือพระอธิการสุพัตร์ พุทธรักขิโตภายหลังจากธุดงค์ได้......เดินทางกลับมายังบ้านเกิดของท่านและ ได้พิจารณาร่วมกับชาวบ้านกลางแล้วเห็นสมควร ที่จะพัฒนา..สํานักสงฆ์แห่งนี้เพื่อเป็นวัดสืบต่อไป ต่อมาได้มีมติความเห็นชอบของคณะกรรมการมหา เถรสมาคม....และกรมการศาสนาในสมัยนั้น (ปัจจุบัน กรมการศาสนาได้เปลี่ยนเป็นสํานักงานพระพุทธศาสนา..........แห่งชาติ) ได้อนุญาตให้สํานักสงฆ์ป่าคูณคําวิปัสสนา ยกลําดับฐานะขึ้นเป็นวัดในวันที่ ๒๗ มกราคม...... พ.ศ.๒๕๔๘
วัดป่าคูณคำวิปัสสนาแห่งนี้ถือเป็นวัดป่าที่มีความร่มรื่นด้วยต้นไม้น้อยใหญ่มากมายอุดมสมบูรณ์อย่าง..ยิ่ง กุฏิของหลวงปู่ขาว อยู่ลึกเข้าไปในป่าใต้ร่มเงาไม้ใหญ่ ทางเดินเล็กๆ เทหล่อด้วยคอนกรีตลดเลี้ยว..... เลาะไปตามใต้โคนไม้ เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม พ.ศ.๒๕๔๗ หลวงปู่ขาว พุทธรักขิโต ท่านก็ได้รับการ.......แต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดป่าคูณคำวิปัสสนา สืบต่อมากระทั่งปัจจุบัน……………………………………………………….