โครงการส่งเสริมศิลปาชีพบ้านกุดสิม - คุ้มเก่า อำเภอเขาวง
ประวัติความเป็นมา สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ได้เสด็จแปรพระราชฐาน ณ พระตำหนัก ภูพานราชนิเวศน์ ในห้วง วันที่ ๑ - ๑๔ มิถุนายน ๒๕๓๕ ทรงเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ที่ประสบภัยแล้ง อันเนื่องมาจากฝนไม่ตกต้องตามฤดูกาล ซึ่งราษฎรในพื้นที่ส่วนใหญ่มีฐานะยากจน และประกอบอาชีพด้านเกษตรกรรมเป็นอาชีพหลัก ด้วยความห่วงใยที่มีต่อพสกนิกรทรงเสด็จเยี่ยมราษฎรในพื้นที่ บ้านกุดสิม - คุ้มเก่า ตำบลคุ้มเก่า อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ ในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๓๕ ณ โรงเรียนเขาวงพิทยาคาร ทรงมีพระราชเสาวนีย์ ให้นำเอาโครงการส่งเสริมศิลปาชีพมาดำเนินการช่วยเหลือ และแก้ปัญหาความทุกข์ยากเดือดร้อนของราษฎรที่ประสบภัยแล้ง สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงทราบถึงความเดือดร้อนของราษฎร บ้านกุดสิม – คุ้มเก่า จึงได้กราบบังคมทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เสด็จเยี่ยมราษฎร บ้านกุดสิม – คุ้มเก่า เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๓๕ ทรงพระกรุณาช่วยเหลือราษฎรบ้านกุดสิมและหมู่บ้านใกล้เคียง โดยทรงมีพระราชเสาวนีย์รับเป็นสมาชิกศูนย์ศิลปาชีพ พระราชทานเงินให้นำไปเป็นทุนในการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม ,ทอผ้าไหม , แกะสลักไม้และจักสานเพื่อประกอบเป็นอาชีพเสริมรายได้ให้แก่ครอบครัว พร้อมทั้งได้มอบทุนการศึกษาให้กับเด็กนักเรียนที่ยากจน และทรงรับราษฎรที่เจ็บป่วยไว้เป็นคนป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ทรงทราบถึงความแห้งแล้ง และการขาดน้ำในการ อุปโภคบริโภคในพื้นที่ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าให้กรมชลประทาน ร่วมกับคณะกรรมการพิเศษ เพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ( กปร. ) ร่วมกันดำเนินการประสานงาน และขอความร่วมมือจากราษฎรในพื้นที่ ร่วมกันสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยวังคำ หรืออ่างเก็บน้ำลำพะยังตอนบนทรงมีพระราชดำริ ให้จัดทำโครงการขุดสระเก็บกักน้ำ และแปลงเพาะปลูก ซึ่งมีราษฎรทูลเกล้า ฯ ถวายที่ดิน จำนวน ๑๓ ไร่ ๓ งาน ที่บ้านแดนสามัคคี ตำบลคุ้มเก่า อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ สำหรับดำเนินการโครงการดังกล่าว ให้เป็นตัวอย่างในพื้นที่ต่อไป ด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ฯ และ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ทรงมีความห่วงใยราษฎรในพื้นที่ บ้านกุดสิม - คุ้มเก่า ตำบลคุ้มเก่า อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ กองทัพภาคที่ ๒ ร่วมกับ อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ จัดทำโครงการส่งเสริมศิลปาชีพ เพื่อเป็นการเทิดพระเกียรติแด่ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ในวโรกาสมหามงคลสมัย ทรงเจริญพระชนมายุครบ ๖๐ พรรษา ในวันที่ ๑๒ สิงหาคม ๒๕๓๕
วัตถุประสงค์
๑. เพื่อเป็นการถวายความกตัญญูกตเวทีแด่ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ
๒. เพื่อเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมและงานฝีมือของภาคอีสาน ซึ่งนับว่าเป็นมรดกที่มีค่ายิ่งของชาวไทยให้ได้รับการสืบทอดตลอดไป
๓. เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของราษฎรที่ยากจนให้ดีขึ้น ให้ราษฎรได้รู้จักช่วยเหลือตนเอง และมีความขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพ เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวเพิ่มขึ้น
๔. เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรมีความรัก และหวงแหนถิ่นที่อยู่อาศัย ไม่อพยพไปหางานทำใน กรุงเทพ ฯ และในต่างจังหวัด
๕. สนับสนุนให้ราษฎร ซึ่งมีพื้นที่น้อยไม่พอเพียงในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้ใช้พื้นที่ซึ่งมีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ที่ตั้งโครงการ บ้านแสนสุข หมู่ที่ ๑๔ ตำบลคุ้มเก่า อำเภอเขาวง จังหวัดกาฬสินธุ์ - พิกัด VD ๐๓๓๔๖๕
หน่วยรับผิดชอบ กรมทหารม้าที่ ๖ ค่ายศรีพัชรินทร อำเภอเมือง จังหวัดขอนแก่น โทร ๐๔๓ – ๒๔๑๔๖๑ ร้อยโท สมชัย นนทสด หัวหน้าชุดประสานงาน โครงการส่งเสริมศิลปาชีพฯ โทร. ๐๘๗ – ๗๗๔๗๔๙๕
พื้นที่ดำเนินการ อำเภอเขาวง, อำเภอนาคู, อำเภอกุฉินารายณ์, อำเภอห้วยผึ้ง และอำเภอสมเด็จ จังหวัดกาฬสินธุ์
จำนวนสมาชิกจำนวนสมาชิกทั้งหมด จำนวน ๑๗๘ คน
๑. กลุ่มทอผ้าไหม จำนวน ๑๔๕ คน
๒. กลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหม จำนวน ๑๐ คน
๓. กลุ่มแกะสลักไม้ จำนวน ๒๐ คน
๔. กลุ่มจักสานไม้ไผ่ จำนวน ๓ คน
๕. นักเรียนทุนในพระบรมราชานุเคราะห์ จำนวน ๑ คน
๖.ผู้ป่วยในพระบรมราชานุเคราะห์ จำนวน ๒๖ คน
ผลที่ได้รับจากการดำเนินโครงการ ฯ
๑. คุณภาพชีวิต และความเป็นอยู่ของราษฎรที่ยากจนดีขึ้น สมาชิกได้รู้จักช่วยเหลือตนเอง และมีความขยันขันแข็งในการประกอบอาชีพ เพื่อหารายได้เลี้ยงครอบครัวเพิ่มขึ้น
๒. สมาชิกมีความรัก และหวงแหนถิ่นที่อยู่อาศัย ไม่อพยพไปหางานทำใน กรุงเทพ ฯ และในต่างจังหวัด
๓. สมาชิก ซึ่งมีพื้นที่น้อยไม่พอเพียงในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม ได้ใช้พื้นที่ซึ่งมีจำกัดให้เกิดประโยชน์สูงสุด