กลุ่มรำชาวนา ซึ่งเป็นการสืบทอดศิลปะวัฒนธรรมประเพณีท้องถิ่น จากพื้นเพของคนตำบลไกรนอกประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยเฉพาะการทำนาข้าว และมีการแต่งเพลงเพื่อสร้างสรรค์ความสุขระหว่างการทำนา ซึ่ง กลุ่มแสดงพื้นบ้าน(รำชาวนา) เกิดจากการที่ นางประณีต คงรอด ที่ประกอบอาชีพทำนา และมีความสนใจด้านศิลปะพื้นบ้านโดยเฉพาะเพลงพื้นบ้าน เป็นผู้ที่ชอบฟัง ชอบดู อาศัยหลักการจำและได้ลองแต่งเพลงพื้นบ้านให้กับผู้อื่นลองฟัง จึงเกิดองค์ความรู้ในเรื่องเพลงพื้นบ้าน และเนื่องจากการอบรมลูกเสือชาวบ้านจำเป็นต้องมีการแสดงต่างๆประกอบกิจกรรมการอบรมจึงใช้ความรู้ความสามารถที่มีอยู่มาประยุกต์ คิดคำร้อง ท่ารำ และชุดการแสดงต่างๆ เพื่อใช้แสดงกิจกรรมรอบกองไฟรับน้องลูกเสือชาวบ้าน กลุ่มแสดงพื้นบ้าน(รำชาวนา) หมู่ที่ 2
ระยะเริ่มต้น ปี 2519จากการที่จังหวัดสุโขทัยมีการฝึกอบรบลูกเสือชาวบ้าน และในวันสุดท้ายของการอบรมจะมีกิจกรรมรอบกองไฟเพื่อให้รุ่นพี่ของแต่ละตำบลนำกิจกรรมการแสดงมาแสดงให้รุ่นน้องได้รับชม และในที่ประชุมของลูกเสือชาวบ้านตำบลไกรนอกได้เสนอให้มีการรำชาวนา โดยมีนางประณีต คงรอด เป็นหัวหน้าในการแสดง และแต่งเพลงเกี่ยวกับการทำนา เนื่องจากนางปราณี คงรอด มีความรู้ความสนใจ และชอบแต่งเพลงพื้นบ้าน เป็นผู้แต่งเพลงโดยใช้เนื้อหาเกี่ยวกับกระบวนการทำนา และปัญหาที่เกิดขึ้นกับชาวนา มาเป็นเนื้อร้อง และให้เพื่อนๆสมาชิกได้ช่วยกันขัดเกลาเนื้อหาอีกครั้ง ส่วนท่าทางประกอบนั้นยังเป็นการรำวงธรรมดา และการแสดงครั้งนั้นได้รับความชื้นชมจากประธานในพิธีและลูกเสือชาวบ้านด้วยกัน ทำให้เกิดแรงบันดาลใจในการตั้งกลุ่มรำชาวนาร่วมกันระหว่างชาวตำบลไกรนอกและตำบลกกแรต แต่การร่วมกลุ่มในระยะแรกยังไม่รับการสนับสนุนจากกลุ่มหรือหน่วยงานใดๆ ฉะนั้นในการแสดงแต่ละครั้งจะใช้อุปกรณ์ที่มีอยู่ของสมาชิกใช้ในการแสดง ชุดที่ใช้ใส่ก็นำกันมาเองเป็นชุดง่ายๆที่ใช้ในการทำนา
1.2 ระยะการพัฒนา จากการที่กลุ่มได้ห่างหายจากการแสดงไปนาน เนื่องจากสมาชิกบางคนไม่มีเวลา ต้องประกอบอาชีพที่ต่างกันจาก จนกระทั้งนางประณีต คงรอด ได้รับการติดต่อจากผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 1 บ้านปรักรัก ตำบลกกแรต ให้มีการนำการแสดงพื้นบ้านไปแสดงในงานวันแม่แห่งชาติ ที่อำเภอกงไกรลาศเป็นจุดเริ่มจากเพลงชาวนาที่มีการรำวงแบบธรรมดาประกอบเพลง จึงเริ่มมีการพัฒนารูปแบบการรำให้เข้ากับการแสดงมากขึ้น โดยนางประณีต คงรอดเป็นแกนนำในการคิดท่าทางการรำประกอบเพลงละมีการแต่งเพลงใหม่ที่เกี่ยวกับการทำนาเพิ่มขึ้น โดยให้สมาชิกได้ช่วยกันเสนอแนะ และมีการคิดรูปแบบการแสดงให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันเพิ่มขึ้น และแรงบันดาลใจอีกประการหนึ่งคือ การที่ นายดำรงค์ วชิโรดมย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัยสมัยนั้น ได้กล่าวกับ นางประณีต คงรอด ว่า “อย่าให้การแสดงของกลุ่มพื้นบ้านนี้หายไปจากจังหวัดสุโขทัยนะ”จึงเป็นแรงบันดาลใจให้สมาชิกกลุ่มได้ทำกิจกรรมกันอย่างต่อเนื่องและได้รับการยอมรับจากกลุ่มบุคคล และหน่วยงานต่างๆ อย่างกว้างขวาง ทำให้มีการติดต่อไปแสดงในหลายพื้นที่และได้รับความชื้นชมจากหน่วยงานต่างๆมากมาย ทำให้กลุ่มการแสดงพื้นบ้าน (รำชาวนา) หมู่ที่ 2 ได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานในการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องแต่งกาย ที่จะใช้ในการแสดง เรื่อยมา และในปี พ.ศ. 2549 ได้มีการประสานไปยังผู้ใหญ่บ้านของหมู่บ้านหมู่ที่ 2 เพื่อติดต่อให้วงปี่พาทย์เขาร่วมการแสดง ทำให้กลุ่มสองกลุ่มนี้มีการทำงานร่วมกันจนถึงปัจจุบัน
1.3 ระยะการถ่ายทอดกลุ่มการแสดงพื้นบ้าน (รำชาวนา) หมู่ที่ 2 ได้รับความชื้นชมและมีงานแสดงบ่อยครั้ง จนทำให้มีสมาชิกของกลุ่มเพิ่มขึ้น จนกระทั้งได้รับการติดต่อจากโรงเรียนกงไกรลาศให้เป็นวิทยากรในการสอนการทำขวัญข้าวให้แก่นักเรียน และมีการร่วมมือกับสภาเด็กและเยาวชนตำบลไกรนอกในการฝึกอบรมให้กับเยาวชนได้เรียนรู้เพื่ออนุรักษ์และสืบทอดการแสดงพื้นบ้าน (รำชาวนา) ต่อไป