เป็นประติมากรรมลอยตัว แบบปูนปั้นพระพุทธรูปประจำวันเกิด พระพุทธรูปปางรำพึง สำหรับผู้ที่เกิดวันศุกร์ เป็นพระพุทธรูปที่อยู่ในอิริยาบถประทับยืน พระหัตถ์ทั้งสองประสานกันยกขึ้นประทับที่พระอุระ พระหัตถ์ขวาทับพระหัตถ์ซ้าย มีความเป็นมา คือภายหลังที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้ได้ไม่นาน พระองค์ซึ่งประทับอยู่ภายใต้ต้นไทร ก็ได้ทรงรำพึงถึงธรรมที่ตรัสรู้ว่า เป็นธรรมที่มีความละเอียดลึกซึ้ง ยากที่มนุษย์ปุถุชนจะรู้ตามได้ จึงเกิดความท้อแท้พระทัยที่จะไม่สั่งสอนชาวโลก ด้วยรำพึงว่า จะมีใครสักกี่คนที่ฟังธรรมะของพระองค์เข้าใจ ร้อนถึงท้าวสหัมบดีพรหม ได้มากราบทูลอาราธนาเพื่อทรงแสดงธรรมว่า ในโลกนี้บุคคลที่มีกิเลสเบาบาง พอฟังธรรมได้ยังมีอยู่ พระพุทธองค์ได้ทรงพิจารณาแล้ว ก็เห็นชอบด้วยอีกทั้งทรงรำพึงถึงธรรมเนียมของพระพุทธเจ้าทั้งหลายแต่ปางก่อน ว่าตรัสรู้แล้ว ก็ย่อมแสดงธรรม โปรดสัตว์โลก เพื่อประโยชน์สุขแก่ชนทั้งปวง จึงได้น้อมพระทัยในอันที่จะแสดงธรรมต่อชาวโลกตามคำอาราธนานั้น และตั้งพุทธปณิธานจะใคร่ดำรงชนม์อยู่ จนกว่าจะได้ประกาศพระพุทธศาสนาให้แพร่หลาย ประดิษฐานให้มั่นคงสำเร็จประโยชน์แก่ชนนิกรทุกหมู่เหล่าต่อไป พระพุทธจริยาที่ทรงรำพึงถึงธรรมที่จะแสดงโปรดชนนิกร ผู้เป็นเวไนยบุคคลนั้นแล เป็นเหตุให้สร้างพระพุทธรูปที่เรียกว่า ปางรำพึง วัดบ้านโคกกลาง หมู่ที่ ๑๗ ตำบลปลาปาก อำเภอปลาปาก จังหวัดนครพนม จึงได้สร้างพระพุทธรูปปางรำพึง ไว้ที่บริเวณ ประตูทางเข้าวัดทางขวามือ เพื่อให้พุทธศาสนิกชน ผู้เกิดวันศุกร์ ได้สักการบูชา