โบสถ์ซางตาครู๊ส เป็นโบสถ์แห่งศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาทอลิก ที่มีความเป็นมาทางประวัติศาสตร์ และเป็นศูนย์รวมศรัทธาแห่งชาวคริสต์ชนมานับตั้งแต่กรุงธนบุรีเป็นราชธานี
ย้อนไปในสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช เมื่อครั้งทรงสถาปนากรุงธนบุรี พระองค์ได้รวบรวมไพร่พลที่กระจัดกระจายจากสงครามเสียกรุงครั้งที่ 2 ซึ่งจำนวนนั้นเป็นชาวโปรตุเกสด้วย พระองค์ได้พระราชทานที่ดินแปลงหนึ่งให้ ต่อมาบาทหลวงกอร์ ชาวฝรั่งเศส และชาวโปรตุเกสราว 400 คน ได้ร่วมกันก่อสร้างโบสถ์ไม้หลังแรกขึ้นในวันที่ 14 กันยายน 2513 ซึ่งตรงกับวันเทิดทูนมหากางเขน (ซางตาครู้ส หมายถึง ไม้กางเขนศักดิ์สิทธิ์) ตามพิธีสักการะบูชาของศาสนาคริสต์นิกายคาทอลิก และตั้งชื่อว่า โบสถ์ซางตาครู๊ส หรือ santa cruz ซึ่งป็นเภาษาโปรตุเกส แปลว่า กางเขนศักดิ์สิทธิ์
ต่อมาในปี พ.ศ.2378 บาทหลวงปัลเลอกัวจึงสร้างโบสถ์หลังที่ 2 เสร็จ มีรูปทรงคล้ายศาลเจ้าจีน ชาวบางกอกในยุคนั้นจึงเรียกแถบนี้ว่า “กุฏิจีน” โบสถ์หลังนี้ใช้งานอยู่ 81 ปี จนกระทั่งปี พ.ศ. 2456 บาทหลวงกูเรียลโม (Guillialmo) รวบรวมเงินสร้างโบสถ์หลังใหม่เป็นหลังที่ 3 ตัวอาคารเป็นสถาปัตยกรรมชั้นเดียวแบบอิตาลียุคนีโอคลาสสิคผสมเรอเนอซองค์ ก่ออิฐประดับลายปูนปั้นงดงามส่วนล่างทำเป็นโถงประกอบด้วยซุ้มโค้งที่สอดรับกัน ประดับด้วยกระจกสีครึ่งวงกลมที่ถ่ายทอดเรื่องราวจากพระคัมภีร์
ลักษณะที่โดดเด่นคือหอคอยยอดโดมหอระฆังแปดเหลี่ยมประดับด้วยไม้กางเขนบนเรือนยอดและมีระฆังที่ให้เสียงไพเราะและพิเศษตรงที่สามารถตีเป็นเพลงได้