อยู่ไฟ หลังคลอด
เมื่อคุณแม่ ตั้งครรภ์ และ อุ้มท้อง เป็นเวลาประมาณ 9 เดือนนั้น มีอะไรหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปคุณแม่ มีน้ำหนักมากขึ้น กินอาหารมากขึ้น อาหารที่เหลือจาก ลูก ก็จะถูกเก็บสะสมไว้ในรูปไขมันเพื่อเตรียมการคลอด หน้าท้องขยายใหญ่ คุณแม่ต้องอุ้ม น้ำหนักลูก ทำให้กล้ามเนื้อของหลัง ช่องท้อง ต้นขาต้องเกร็งตัวตลอดเวลา ทำให้มีอาการปวดหลัง คุณแม่ บางคนก็มีภาวะท้องผูก เป็นริดสีดวง เส้นเลือดขอดที่ขา ท้องลาย ขาบวม เป็นต้น คนโบราณหาวิธีแก้ปัญหาเหล่านี้ด้วยการ อยู่ไฟ หรืออยู่เรือนไฟคือการไปนอนบนแผ่นกระดาษก่อกองไฟไว้ใกล้หรือด้านล่างเพื่อให้ มดลูก เข้าอู่ หรือแห้ง และยังเป็นการป้องกันการติดเชื้อได้อีกด้วย เนื่องจากอยู่ในที่ที่อุณหภูมิสูงอยู่ตลอดเวลา นอกจากนี้ก็ยังให้คุณแม่กินเกลือ เพราะต้องเสียเหงื่อมากจากความร้อนระยะเวลาของการอยู่ไฟนั้นประมาณ 7-15 วัน หลังคลอดและคุณแม่ จะต้องพยายามทำขาให้ชิดกัน เพื่อให้แผล ฝีเย็บ ติดกัน วิธีการนี้คนโบราณจะเรียกว่าการเข้าตะเกียบ ซึ่งช่วยให้คุณแม่ในยุคสมัยที่ยังนิยมการอยู่ไฟหลังคลอดมีสุขภาพสมบูรณ์ ปัจจุบันการ อยู่ไฟหลังคลอด แบบในอดีตนั้นไม่เป็นที่นิยมจนคนรุ่นหลังๆ แทบไม่รู้จักวิธีการฟื้นฟูสุขภาพของคุณแม่หลังคลอด ด้วยวิธีการนี้เลย ทั้งที่เป็นการฟื้นฟูสุขภาพ หลังคลอด ที่เป็นประโยชน์ต่อร่างกายทั้งในระยะสั้นและระยะยาว การดูแลมารดาหลังคลอด การดูแลทารกแรกเกิด และการส่งเสริมสุขภาพเด็กดี
โดยเฉพาะในส่วนของการดูแล มารดาหลังคลอด นั้น ได้นำเอาวิธีการดูแลมารดาหลังคลอดของโบราณมาประยุกต์ใช้ เพื่อก่อให้เกิดสุขภาพดีทั้ง แม่และเด็ก โดยมีองค์ประกอบในการดูแล ดังนี้
การนวด เป็นการคลายกล้ามเนื้อของแม่ที่เกร็งตัวอุ้มท้องอยู่ตลอด 9 เดือน ทำให้ระบบไหลเวียนโลหิตดีสามารถนำเอาของเสียที่ตกค้างตามส่วนต่างๆ ของร่างกายออกมากับเลือด นำไปฟอกที่ไตเพื่ขับถ่ายออกทางปัสสาวะ และเอาสารอาหารไปซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอ นอกจากนั้น การนวดยังช่วยลดอาการเส้นเลือด ขอดรีดสีดวงทวาร และอาการบวม อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมสุขภาพอีกด้วย เหมือนที่โบราณว่าเมื่อเลือดลมดีสุขภาพก็ดี
การทับหม้อเกลือ เป็นการนำเอาเกลือเม็ดใส่ในหม้อดินตั้งไฟจนเกลือสุกประมาณ 10-15 นาที วางลงบนสมุนไพร หลากหลายชนิด ห่อด้วยใบพลับพลึงและผ้าขาว เกลือที่ตั้งไฟจนสุกจะสามารถเก็บความร้อนไว้ได้นาน 15-20 นาที เมื่อห่อเกลือด้วยใบพลับพลึงและผ้าขาวเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงนำมาประคบตามร่างกายความร้อนจะช่วยให้รูขุมขนเปิด ทำให้สมุนไพรซึมผ่านลงไปได้ ช่วยขับ น้ำคาวปลา ขณะเดียวกันก็ขับของเสียออกมาตามรูขุมขน ทำให้คุณแม่มีผิวพรรณที่สวยงามรัดมดลูกให้เข้าอู่เร็วการอบสมุนไพร คือการที่คุณแม่เข้าไปในห้องหรือกระโจมที่ถูกรมด้วยไอความร้อนจากน้ำต้มสมุนไพรทำให้ร่างกายได้รับความร้อนทั่วตัว รูขุมขนเปิดตลอด ปอดและหลอดเลือดฝอยขยายตัว หายใจสะดวกขึ้นทำให้ขับของเสีย ทำให้เลือดไหลเวียนสะดวก กล้ามเนื้อผ่อนคลาย และลดไขมันที่สะสมไว้ขณะตั้งครรภ์ ทำให้หุ่นดี การใช้ยาสมุนไพรโบราณว่า เดิมมีการนั่งถ่าน โดยใช้สมุนไพรโรยที่ถ่านให้เกิดควัน แล้วนั่งคร่อม เตารม แผลฝีเย็บ ให้แห้งและให้ช่องคลอดกระชับ การใช้ยาสมุนไพรบำรุงธาตุขับน้ำคาวปลาและบำรุงนมในข้อนี้แพทย์แผนปัจจุบันไม่เห็นด้วย เพราะเชื่อว่ายาที่คุณแม่ทานอาจมีผลต่อเด็ก จึงทำให้ขั้นตอนนี้ไม่เป็นที่นิยมนำมาใช้ในการดูแลคุณแม่หลังคลอดในปัจจุบัน