พระแก้วไพฑูรย์ เป็นพระพุทธรูปเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองอุบลราชธานี ประดิษฐานอยู่ที่วัดหลวง ถนนพรหมเทพ ตำบลในเมือง อำเภอเมือง จังหวัดอุบลราชธานี นับว่าเป็นพระพุทธรูปที่มีความสำคัญทางประวัติศาสตร์ของเมืองอุบลราชธานีเป็นอย่างมาก
องค์พระแก้วไพฑูรย์เป็นหินธรรมชาติ แสงส่องผ่านได้ ตามประวัติไม่ปรากฏว่าใครเป็นผู้สร้าง แต่อยู่ในความครอบครองของบรรพบุรุษเจ้านายเมืองอุบลมาแต่อดีต ในสมัยเริ่มสร้างเมืองอุบล พระปทุมวราชสุริยวงศ์ (เจ้าคำผง) ได้ถวายพระแก้วไพฑูรย์และพระแก้วบุษราคัมเพื่อให้ประดิษฐานไว้คู่กันที่วัดหลวงซึ่งเป็นวัดแห่งแรกของอุบลราชธานี ต่อมาเมื่อเจ้านายทางกรุงเทพมหานครเดินทางมาปกครองเมืองอุบลในช่วงสมัยรัชกาลที่ 5 นั้น เจ้านายเมืองอุบลได้นำพระแก้วไพฑูรย์และพระแก้วบุษราคัมไปซ่อนไว้ เนื่องจากเกรงว่าเจ้านายทางกรุงเทพมหานครจะนำกลับเมืองหลวง
จนกระทั่งเมื่อมีการสร้างวัดศรีอุบลรัตนาราม (วัดศรีทอง) พระบิดาของพระอุบลเดชประชารักษ์ (เสือ ณ อุบล) ได้ไปเชิญเอาพระแก้วทั้งสองออกมาจากที่ซ่อน และนำพระแก้วบุษราคัมถวายแด่พระเดชพระคุณพระเทวธัมมี (ม้าว) ซึ่ง เป็นเจ้าอาวาสรูปแรกของวัดศรีทอง (วัดศรีอุบลรัตนาราม) และเป็นลัทธิวิหาริกของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ดังนั้นข้าหลวงจากกรุงเทพมหานครน่าจะมีความเกรงใจไม่กล้าที่จะขอเอาพระแก้วบุษราคัม พระแก้วไพฑูรย์ไปจากเมืองอุบลราชธานี
ส่วนพระแก้วไพฑูรย์นั้น ทายาทของเจ้านายเมืองอุบลราชธานีได้นำไปเก็บรักษาไว้ เนื่องจากเป็นสมบัติอันล้ำค่าของบรรพบุรุษ ต่อมาภายหลังจึงได้นำมาถวายพระครูวิลาสกิจจาทร เจ้าอาวาสวัดหลวงให้เป็นสมบัติของวัดหลวงตามเดิม ดังปรากฏอยู่ทุกวันนี้
พระแก้วไพฑูรย์เป็นหนึ่งในแก้วอันเป็นรัตนชาติ คือ เพชรดี มณีแดง เขื่องใสแสงมรกต เหลืองใสบุษราคัม ทองแก่กำโมเมนเอก สีหมอกเมฆนิลกาลมุดาหารหมอกมัว แดงสลัวเพทาย สังวาลสายไพฑูรย์
หากจะยกองค์พระขึ้นส่องจะเห็นเป็นคล้ายสายฝนหยาดลงมาจากฟ้าอันเป็นนิมิตหมาย แห่งความอุดมสมบูรณ์ ฝนตกตามฤดูกาลของสำคัญคู่บ้านคู่เมืองของเมืองอุบลราชนี้มีพระแก้วบุษราคัม พระแก้วไพฑูรย์ จึงได้พากันเอาไปซ่อนเสียโดยนำออกจากวัดหลวงไปในสมัยนั้น ภายหลังทายาทเจ้าเมืองอุบลราชธานีเห็นว่าวัดหลวงไม่มีพระสำคัญจึงได้นำมา ถวายให้เป็นสมบัติของวัดหลวง และเป็นของคู่บ้านคู่เมืองสืบไป พระแก้วไพฑูรย์ จึงได้กลับมาประดิษฐานวัดหลวงตามเดิมดังที่เห็นอยู่ในขณะนี้