จิตรกรรมฝาผนังพระเวสสันดรชาดก ๓ ทานกัณฑ์ ณ ศาลาการเปรียญวัดบ้านนาสะตัง หมู่ที่ ๗ บ้านนาสะตังตำบลนาตาล อำเภอนาตาล จังหวัดอุบลราชธานี ภาพจิตรกรรม โดยนายเชวงศักดิ์ ศรีวัฒนานนท์
กัณฑ์ที่ ๓ ทานกัณฑ์ เมื่อพระนางผุสดีทรงทราบว่า พระเวสสันดรโอรส ถูกประชาชนกล่าวโทษว่า พระราชทานช้างปัจจัยนาคเป็นทาน และถูกลงโทษให้เนรเทศจากพระนครสีพีก็ตกพระทัย รีบเสด็จมาพบพระเวสสันดรและพระนางมัทรี ปรับทุกข์กันอยู่ ก็ทรงพระกรรแสงโศกาดูร แล้วเสด็จเข้าเฝ้าพระเจ้ากรุงสญชัย ทูลขอประทานอภัยโทษ ก็ไม่สำเร็จ ด้วยท้าวเธอตรัสว่า ให้เนรเทศตามกฎของธรรมศาสตร์ราชประเพณี ครั้นพระนางผุสดีทรงสดับก็จำนน ก่นแต่โศกร่ำรำพันมากมายตามวิสัยมารดาที่รักบุตร ตลอดสาวสนมกำนัลนาง และประชาชนที่รักใคร่พากันอาลัยทั่วหน้า รุ่งขึ้นได้เวลา พระเวสสันดรก็ทรงบริจาคสัตสดกมหาทาน คือ การให้ครั้งใหญ่ โดยกำหนดไว้สิ่งละ ๗๐๐ คือ ๑) ช้าง ๗๐๐ เชือก ๒) ม้า ๗๐๐ ตัว
๓.) โคนม ๗๐๐ ตัว ๔) รถ ๗๐๐ คัน ๕). นารี ๗๐๐ คน ๖) ทาส ๗๐๐ คน ๗) ทาสี ๗๐๐ คน
๘) สรรพวัตถาภรณ์ต่าง ๆ อย่างละ ๗๐๐ ๙) ที่สุดแม้สุราบาน ก็ได้ประทานแก่นักเลงสุรา เสร็จแล้วก็ทรงพาพระนางมัทรี ไปทูลลาพระชนกและพระชนนี เพื่อออกไปบำเพ็ญพรตอยู่เขาวงกต พระเจ้ากรุงสญชัยขอให้พระนางมัทรี พระชาลีและพระกัณหาอยู่ พระนางมัทรีไม่ยอมอยู่ ทั้งไม่ยอมให้ลูกอยู่ด้วยเป็นอันถูกเนรเทศด้วยกันทั้งหมด รุ่งขึ้นพระเวสสันดร พระนางมัทรีพร้อมด้วยพระโอรส พระธิดา ก็เสด็จทรงรถม้าพระที่นั่งเสด็จออกจากพระนคร บ่ายพระพักตร์เข้าสู่ไพร ก่อนที่จะลับพระนครไป ทรงหันกลับมามองพระนครด้วยความอาลัย แล้วก็เสด็จประเวศ ยังมิทันที่จะพ้นเขตชานพระนคร ก็ทรงประทานม้าและรถแก่พราหมณ์ที่วิ่งตามมาทูลขอ แล้วต่างองค์ก็ทรงอุ้มพระโอรส พระธิดาดำเนินเข้าไพร โดยตั้งพระทัยไปเขาวงกต