การละเล่นสวดมาลัย เป็นศิลปะการแสดงอย่างหนึ่งของภาคใต้ ที่งดงามและมีลีลาที่น่าดูชมมาก โดยเล่นในงานศพหลังพิธีสงฆ์ในตอนกลางคืน วัตถุประสงค์ในการเล่นนั้น ก็เพื่อช่วยให้งานศพไม่เงียบเหงาโศกเศร้าจนเกินไป และดึงผู้คนให้อยู่ร่วมกันจนรุ่งสว่าง คณะมาลัยหนึ่งๆจะมีขั้นต่ำสี่คน คือแม่เพลง ๒ คน และลูกคู่ ๒ คน ดนตรีรำมะนากับขลุ่ยหรือไม่ใช้ดนตรีก็ได้ อุปกรณ์อื่นๆก็มี ตาลปัตร แป้งผัดหน้า หนวดปลอม เขี้ยวปลอม แว่นตา ฯลฯ สมัยก่อนการสวดมาลัยเป็นการสวดหนังสือมาลัยจริงๆ ต่อมาธรรมเนียมนี้ได้เปลี่ยนไป มีการสวดแบบเปิดหน้าและคิดประดิษฐ์คำร้องทำนองต่างๆขึ้นมาใช้ด้วย เนื้อร้องมีพระมาลัยไว้เล็กน้อย และยังนำเรื่องจากวรรณคดีเข้าแทรกเป็นตอนๆ มีธรรมเนียมการเล่นเป็นลำดับคือเริ่มต้นจากเตรียมหมากพลู ธูปเทียนบูชาพระรัตนตรัย แล้วร้องเกริ่นก่อนไหว้ครูโดยมีตาลปัตรบังหน้า บอกกล่าวผู้ชมทำนองออกตัวหากเล่นไม่ดีก็ขออภัย จากนั้นทำพิธีและร้องไหว้ครู แล้วรำเบิกโรง โดยมีบทเพลงแต่งขึ้นเองตามแต่จะเล่น หรือตัดตอนบทมาจากวรรณคดีเพื่อความสนุกสนาน จะมีสวดมาลัยแทรกคือ มีผู้แสดงเป็นพระมาลัยออกมาร่ายรำ เนื้อหาสวดว่า ด้วยพระมาลัยไปไปเยี่ยมนรกและไปเยี่ยมสวรรค์ แจกแจงว่าใครทำชั่วได้รับโทษกรรมอย่างไรเมื่อตายไป ใครทำดีได้ผลแห่งกรรมดีนั้นอย่างไรเมื่อตายไป ใครทำดีได้ผลแห่งกรรมดีนั้นอย่างไรเมื่อตายไป