มีเรื่องเล่ากันมาว่า สมัยพี่ลุงวุ่นยังเป็นหนุ่ม พ่อของลุงวุ่นไปเลี้ยงควาย วันหนึ่งขณะที่ลุงวุ่นนำควายออกไปเลี้ยงชายทุ่ง ปล่อยให้ควายกินหญ้าแล้วตัวลุงวุ่นเองก็ปีนขึ้นไปนอนดูอยู่บนต้นไม้ใกล้ ๆ แล้วก็เผลอหลับไปงีบหนึ่ง พอรู้สึกตัวตื่นก็ตกเย็นถึงเวลาที่ต้องนำควายกลับบ้าน แต่ปรากฏว่าควายเกิดหลงฝูงหายไป 2 ตัว ลุงวุ่นจึงไม่กล้ากลับบ้านเพราะกลัวว่าพ่อจะด่า จึงออกตามหาควาย 2 ตัวนั้นจนค่ำลุงวุ่นก็ไม่รู้จะนอนที่ไหน จะนอนใต้ต้นไม้ก็กลัวเสือจะมากัด จึงตัดสินใจขึ้นไปนอนบนต้นไม้
ตกดึกขณะที่แกนอนเคลิ้ม ๆ อยู่บนต้นไม้ก็ไห้ยินเสียงคนเดินมา แกก็ลุกขึ้นนั่งดูก็เห็นคน 3 คน เป็นผู้ชายกับเด็ก ทั้ง 3 เดินเข้ามาใกล้ต้นไม้ที่ลุงวุ่นอยู่ก็ร้องเรียกให้ลุงวุ่นลงมาคุยด้วยใต้ต้นไม้ ในความรู้สึกของลุงวุ่นนั้นว่าทั้ง 3 คนนั้นไม่ใช่คน แกจึงไม่ยอมลงไปไม่ว่าทั้ง 3 คนนั้นจะเรียกอย่างไร ในที่สุดทั้ง 3 คนก็จากไป สักครู่มีหญิงสาวหน้าตาสวยมากคนหนึ่งเดินมุ่งตรงมายังต้นไม้ที่ลุงวุ่นอยู่อีก มาถึงก็ยั่วยวนต่าง ๆ นานาพร้อมทั้งเรียกให้ลุงวุ่นลงไปอีก ลุงวุ่นก็ไม่ยอมลงไม่ว่าหญิงคนนั้นจะทำอย่างไร จนผู้หญิงคนนั้นจากไปอีก สักครู่หนึ่งแกได้ยินเสียงแผ่นดินสะเทือน มองไปช้างหน้าก็เห็นช้างโขลงหนึ่งวิ่งมุ่งหน้ามาหาแก แกเห็นเช่นนั้นก็รู้ว่าทำไม่ดีแน่และคืนนี้คงอดหลับอดนอนจึงตัดสินใจลงจากต้นไม้ แกเองก็เป็นคนมีวิชาอาคมอยู่บ้าง ลงไปกำดินขึ้นมากำหนึ่งแล้วรีบปีนกลับขึ้นต้นไม้ เอาดินที่กำไว้ยกขึ้นเสกคาถาอาคมแล้วขว้างไปยังโขลงช้างที่เข้ามาใกล้ ปรากฏว่าช้างโขลงใหญ่นั้นหายวับไปทันที นั้นแหละลุงวุ่นจึงได้นอนในคืนนั้น