"จ๊อบ" บรรจบ เป็นคนจังหวัดตรัง เกิดเมื่อวันที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2501 ปัจจุบันอายุ 50 ปี และครอบครัวมีลูก 4 คน ในวัยเด็กประกอบอาชีพทำนา และทำสวนยางพารา แต่เนื่องจากเป็นคนที่ชอบดนตรีมากๆ ถึงกับเอาหม้อ ถ้วย หรือกะละมัง มาตีเล่น แล้วก็ร้องเพลงลูกทุ่งกับพี่ๆ น้องๆ กัน จนกระทั่งจบ ม.ศ.3 "จ๊อบ" บรรจบ ก็ไปทำงานที่กรุงเทพฯ เพื่อหาเงินเรียนหนังสือต่อ ทั้งทำงานส่งน้ำอัดลม หรือล้างรถ ขณะเดียวกัน ก็ฝึกหัดดนตรีอย่างจริงจัง และได้เล่นแบบโฟล์กซอง ตามผับต่างๆ ในกรุงเทพฯ อยู่ประมาณ 3 ปี

ต่อมา "จ๊อบ" บรรจบ ได้ย้ายไปเล่นในต่างจังหวัด เช่น เชียงใหม่ หาดใหญ่ ภูเก็ต และเมืองท่องเที่ยว ซึ่งยิ่งเดินทางเขาก็ยิ่งได้อะไรมากขึ้น และเริ่มรู้จักคนนั้นคนนี้ กระทั่งได้ฟังดนตรีกว้างขึ้น จึงรู้จักเพลงเร็กเก้ และเริ่มสนใจ เพราะรู้สึกว่าเข้ากับตัวของ "จ๊อบ" บรรจบ ได้ เนื่องจากเป็นคนปักษ์ใต้ การพูดภาษากลางก็จะเพี้ยนๆ อยู่แล้ว ซึ่งจะไปใกล้เคียงกับเพลงแบบเร็กเก้ ก็เลยหันมาฝึกฝนการร้องและเล่นดนตรีแนวนี้มากขึ้น โดยเริ่มจากการลองเอาเพลงของนักร้องหลายคนมาทำในแบบเร็กเก้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพลงสากล จึงทำให้คนฟังชอบ

จากนั้น "จ๊อบ" บรรจบ ก็ได้มีโอกาสไปร่วมกับนักดนตรีทั่วโลก เช่นไปเล่นที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งเป็นบ้านเกิดของภรรยา โดยใช้เวลาอยู่ที่ประเทศอังกฤษเกือบ 20 ปี จนทำให้เกิดความเบื่อและความเหนื่อย จึงเดินทางกลับมายังเมืองไทย และเอาเพลงที่เคยเขียนไว้มาทำเพลง โดยอัลบั้มชุดแรกคือ "จ๊อบ ทู ดู" แม้ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าที่ควร แต่ก็มีคนรู้จัก ต่อจากนั้น "จ๊อบ" บรรจบ ก็เขียนเพลง และทำเพลงต่อมาเรื่อยๆ จนกระทั่งมาถึงชุด "นุ๊กกันนิคุณ" ซึ่งเป็นแบบเร็กเก้ผสมสำเนียงใต้ โดยใช้ดนตรีที่มีเฉพาะอยู่แถวฝั่งอันดามัน

แต่อย่างไรก็ตาม จู่ๆ ส้มก็มาหล่นใส่ "จ๊อบ" บรรจบ ในเพลงเพลง "ดูเธอทำ" จนดังเป็นพลุแตก ซึ่งเป็นเนื้อหามาจากเรื่องราวความรักของพวกเร็กเก้ ที่ชอบอะไรบางอย่าง ซึ่งอาจดูเหมือนจะไม่มีค่าสำหรับคนอื่น แต่สำหรับพวกเร็กเก้นั้นจะมีค่ามาก โดยประโยคที่ว่า "ทำไมถึงทำกับฉันได้" เขาบอกว่า เป็นเพียงประโยคหนึ่งในเพลง "ทำไมถึงทำกับฉันได้" ของ "ดาวใจ ไพจิตร" ที่บังเอิญไปพ้องกันพอดี

โดยเพลง "ดูเธอทำ" นั้น อยู่ในชุด "โน วอร์" (NO WAR) ในอัลบั้มชุดที่ 3 ที่มีความหมายคือ ไม่มีสงคราม ซึ่งเป็นงานเพลงที่ "จ๊อบ" บรรจบ ทำหลังจากที่เกิดคลื่นยักษ์สึนามิ เพื่ออยากจะให้สื่อถึงปัญหาความขัดแย้งใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และอยากจะให้เห็นสันติภาพเกิดในแถบนั้น โดยเขาได้ออกงานเพลงชุดนี้มาประมาณ 2 ปีแล้ว กว่าที่คนจะรู้จักกัน จนเพลงนี้ถูกนำไปประกอบโฆษณารังนกยี่ห้อหนึ่ง

อย่างไรก็ตาม "จ๊อบ" บรรจบ ไม่ได้ต้องการที่จะมีชื่อเสียง หรือมีคนไปขอถ่ายรูปเขาเองมากขึ้นอย่างทุกวันนี้ เพียงแค่อยากจะทำเพลงในแบบที่ผมชอบ หรือได้เล่นดนตรีที่ตนรักก็เพียงพอแล้ว แม้จะใช้ชีวิตแบบศิลปินสมถะ แต่ "จ๊อบ" บรรจบ ก็ยังอดห่วงวงการเพลงไม่ได้ เพราะทุกวันนี้ยังลำบากอยู่ โดยเฉพาะเรื่องการขาย เพราะการขโมยเพลงด้วยการก๊อบปี้กำลังระบาดมาก ซึ่งตรงนี้ก็เป็นจุดด้อยอีกอย่างหนึ่งของศิลปิน