ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
Latitude : N 15° 22' 57.5818"
15.3826616
Longitude : E 100° 49' 20.8207"
100.8224502
No. : 135903
กลุ่มผู้ผลิตผ้าไหมมัดหมี่ลายราตรีวังนารายณ์
Proposed by. kanlayanin Date 20 May 2012
Approved by. ลพบุรี Date 23 May 2012
Province : Lop Buri
1 2981
Description

กลุ่มผู้ผลิตผ้าไหมมัดหมี่ลายราตรีวังนารายณ์ ตั้งอยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 4 ตำบลโคกเจริญ อำเภอโคกเจริญ จังหวัดลพบุรี โดยมีนายวินัย ปัจฉิม เกิดวันที่ 25 พฤศจิกายน 2500 อยู่บ้านเลขที่ 22 หมู่ 4 ตำบลโคกเจริญ อำเภอโคกเจริญ จังหวัดลพบุรี เป็นประธานกลุ่ม
ประวัติความเป็นมา
ผ้าไหมมัดหมี่ลายราตรีวังนารายณ์ เป็นผ้าไหมที่มีลวดลายเป็นเนื้อหารวบรวมสิ่งสำคัญและสื่อคำขวัญของจังหวัดลพบุรีที่ว่า “วังนารายณ์คู่บ้านศาลพระกาฬคู่เมือง ปรางค์สามยอดลือเลื่อง เมืองแห่งดินสอพอง เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์เกริกก้องแผ่นดินทองสมเด็จพระนารายณ์” ไหมที่ใช้ในการทอเรียกว่า “ไหมบ้าน (ไหมเหลือง)”กรรมวิธีในการสาวไหมใช้การสาวไหมด้วยมือ ซึ่งเป็นภูมิปัญญาไทยอย่างแท้จริงเป็นไหมขนาดใหญ่ ใช้ไหมทั้งหมด 135 ลำ คันไหมทั้งหมด 20 ขีน (คู่) ทอแบบสองตะกอสอดด้ายดำเพื่อความประณีต และเน้นลักษณะผ้าทอโดยเฉพาะใช้โทนสีแบบโทนสีเบญจรงค์ ทำให้รู้สึกเข้มขลังเหมาะกับชิ้นงานเป็นการอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรม แสดงรูปแบบงานสถาปัตยกรรมด้วยงานหัตถกรรมการทอทั้งกระบวนการผลิตและลวดลายจากภูมิปัญญาไทย ขนาดผ้ายาว 186 เซนติเมตร ราคา 2,000 บาท สามารถผลิตได้วันละ 50 เซนติเมตร

มาตรฐานและรางวัลที่ได้รับ

1. รางวัลชนะเลิศผลิตภัณฑ์ดีเด่น จังหวัดลพบุรีหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์

2.รางวัลชนะเลิศผลิตภัณฑ์ดีเด่นภาคกลาง ผ้าไหมมัดหมี่ประเภทภูมิปัญญา

วัตถุดิบ และส่วนประกอบ

เครื่องมือและอุปกรณ์ที่ใช้การทอผ้าในการทอผ้าประกอบด้วยเครื่องมือและอุปกรณ์ดังนี้

1. กี่หรือหูก เป็นโครงสร้างที่ใหญ่ของเครื่องมือที่ทอใช้ไม้เนื้อแข็งขัดเกลาจากช่างผู้ชำนาญประกอบขึ้นเป็นตัวกี่
2.ฟืมหรือฟันหวี คือส่วนที่กระทบให้ด้ายที่ทอเข้ากันแน่น มีลักษณะเป็นแผ่นทำด้วยเหล็ก หรือสแตนเลตทำเป็นช่องถี่เล็กๆ เรียงต่อกัน ระหว่างช่องเหล่านี้ได้ใช้สำหรับสอดได้ยืนทั้งหมดความยาวประมาณ 1.10 เมตร

3. ไม้แกนม้วนผ้า คือไม้ที่ใช้ม้วนผ้าที่ใช้แล้ว ไว้อีกส่วนหนึ่ง เป็นไม้เนื้อแข็ง กลมหรือเหลี่ยมก็ได้ขนาดความกว้างเท่ากับกี่ หรือเท่ากับความกว้างของผ้าที่ทอ ส่วนใหญ่ประมาณ 1 เมตร เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 เซนติเมตร ปลายทั้งสองเป็นเหล็กหรือไม้ก็ได้ทำเหมือนกงจักรเพื่อให้ง่ายต่อการหมุนเครือข่ายหรือม้วนกลับเข้าเหมือนเดิมกงจักรที่เป็นเหล็ก จะต้องหมุนด้วยพลาสติก เพื่อป้องกันสนิมและการเกี่ยวขาดของด้ายไม้กงจักรจะอยู่ด้านนอกเพื่อค้ำยันด้วยเครื่องให้อยู่กับที่โดยมีไม้สำหรับคั่นเครือช่วยค้ำ

4. ไม้สำหรับนั่งทอผ้า ใช้สำหรับผู้ทอผ้าเวลาทำการทอผ้า ลักษณะเป็นแกนไม้ไผ่มีไม้แผ่นตรงกลางเป็นที่นั่ง เป็นแผ่นไม้เนื้อแข็งขนาดพอดีกับการนั่ง

5. กระสวย คือ ไม้ที่เป็นรูปเรียว ตรงปลายทั้งสองข้างตรงกลางป่อง มีร่องสำหรับใส่หลอดด้ายอยู่ตรงกลางใช้สำหรับพุ่งหลอดไปในระหว่างช่องการทอ ให้เส้นด้ายพุ่งไม่ขัดกับด้ายเครือสลับกับการกระทบฟืม มีความยาวประมาณ 30 เซนติเมตร

6. หลอดด้ายพุ่ง คือหลอดไม้ไผ่ที่บรรจุด้ายจนเต็ม ใส่อยู่ภายในกระสวย สำหรับเป็นด้ายพุ่ง มี 2 ขนาดหลอดใหญ่ใช้กรอเส้นด้ายเครือ (ในการเดินด้าย) มีความกว้างประมาณ 2 เซนติเมตร และยาวประมาณ 19 เซนติเมตร หลอดเล็กใช้กรอเส้นด้ายพุ่ง ใส่ไส้กระสวยสำหรับทอผ้ามีความกว้างประมาณ 0.5 เซนติเมตร และยาวประมาณ 7 เซนติเมตร

7. ไม้เหยียบหรือคานไม้ เป็นไม้สี่เหลี่ยมอยู่ด้านกลาง มีเชือกผูกเชื่อมโยงสลับเขาหูกทั้งสองอันสำหรับเหยียบเพื่อให้เส้นด้ายเครือสลับกันเป็นช่องก่อนจะสอดด้ายลายหมี่ในหลอดกระสวย

8. ตะกอหรือเขา มีลักษณะเป็นกรอบไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้า ผู้ทอจะเก็บตะกอตามเส้นด้ายเครือเส้นเว้นเส้นสลับกันไปจนหมดความกว้างของเส้นด้ายเครือ ตะกอลายพื้นฐานมี 2 อันสำหรับแยกเส้นด้ายยืนออกเป็นหมู่ 2 ฝ่าย เพื่อที่จะพุ่งกระสวยผ่านไปมาตระกอจะมีเชือกเส้นด้ายผูกแขวนไว้ ด้านบนเคลื่อนที่ไปมาได้ด้านล่างมีเชือกผูกติดกับคานเหยียบ ให้เลื่อนขึ้นลงเปิดเส้นด้ายยืนให้เป็นช่องเพื่อพุ่งกระสวยให้เข้าหากันได้สะดวก ตะกอและคานเหยียบจะมีมากชุดเมื่อต้องการผ้าที่มีลายมาก

ขั้นตอนการทอผ้า
การทอผ้ามัดหมี่เป็นวิธีการทอที่ต้องนำเส้นด้ายที่เป็นด้ายพุ่งไปมัดให้เป็นลวดลายด้วยเชือกฟางก่อนนำไปย้อมสี แล้วกรอด้ายให้เรียงตามลวดลาย ใส่กระสวยนำไปทอพื้นฐานจะได้ลายมัดหมี่ที่เรียกว่า มัดหมี่เส้นพุ่งรอยซึมของสีที่วิ่งไปตามลวดลายที่ผูกมัดของเส้นด้ายจะทำให้เกิดลักษณะลายที่ต่างจากผ้าทอชนิดอื่น ลำดับในการทอผ้าพื้นเมือง มีดังนี้

1.การขึ้นเครือด้ายหรือด้ายยืนการขึ้นเครือด้ายขึ้นเป็นเมตร ตั้งแต่ 150 , 200,250, 300, 350 และ 400 เมตร โดยเฉลี่ยแล้วเครือด้าย 2 เมตร จะทอผ้าซิ่นหรือผ้าถุงได้ 1 ผืน ปัจจุบันนิยมขึ้นเครือด้ายตั้งแต่ 200 เมตรขึ้นไป

2. การค้นหมี่เป็นลำทำโดยนำด้ายม้วนสำเร็จที่ซื้อมา มาค้นทีละเส้นสลับเป็นจุดโดยมีเครื่องมือช่วยค้นปัจจุบันใช้กันทั้งเครื่องมือช่วยค้นแบบดั้งเดิมซึ่งใช้แรงงานคนโยกเครื่องค้นและแบบสมัยใหม่ที่ใช้มอเตอร์หมุนเครื่องค้นซึ่งการค้นนี้สามารถค้นได้ 7,14,17,21,25,31,41,51 และ 61 ลำตามที่ต้องการถ้าจำนวนลำน้อยจะมัดลายได้ไม่ละเอียดนักและได้สีน้อย ส่วนมากจะมัดลายกันตั้งแต่ 25ลำขึ้นไปจึงจะมัดลายได้ละเอียด สามารถเลือกใช้สีได้หลากสีสามารถประดิษฐ์ดัดแปลงได้ตามต้องการ ในกรณีผ้าไหมลายราตรีวังนารายณ์ จะค้นหมี่จำนวน 271 ลำ 20 ขีน (คู่) จะได้ผ้า 4 เมตร

3. การมัดหมี่หรือการโอบลายหมี่ เป็นการเลือกที่จะให้ลายบริเวณไหนเป็นสีอะไรตามเทคนิคของผู้ทำหรือตามแบบที่มีอยู่แล้วการมัดหมี่จะใช้เชือกฟางที่ผ่านการขยี้หรือทำให้นิ่มแล้ว เพื่อง่ายต่อการมัดตัดและฉีกให้กว้างประมาณ 2 เซนติเมตร พันรอบเส้นด้ายตามลายที่ต้องการในการมัดอาจใช้เชือกฟางสีต่างกันเพื่อความสะดวกและเห็นลวดลายชัดเจน กรณีผ้าไหมลายราตรีวังนารายณ์จะให้สีได้ถึง 7 สี

4. การย้อมหมี่ เมื่อมัดหมี่เสร็จอาจนำปอฟางมาโอบดอก ลายไว้สำหรับการย้อมสีอื่นการมัดหมี่หรือโอบลายหมี่ของผู้นำ หากใช้เทคนิคต่างกันแม้ว่าจะเป็นหมี่ลายเดียวกันแต่การย้อมสีแต่ละสีต่างกันก็สามารถทำให้ผ้ามีลวดลายที่ดูต่างกันได้สำหรับวิธีการย้อมนั้นก็จะนำหมี่ที่ต้องการย้อมไปแช่น้ำประมาณ 5-10 นาทีแล้วบิดพอหมาด หลังจากนั้นจึงทำการย้อมสีในน้ำต้มที่เดือด คนและพลิกกลับไปมาประมาณ15-20 นาที ถ้าคนไม่ดีจะทำให้หมี่ที่ได้สีไม่สม่ำเสมอเมื่อได้สีตามที่ต้องการก็จะยกหมี่ไปแช่น้ำเย็น 3-5 นาทีต่อจากนั้นนำไปฟอกด้วยผงซักฟอกหรือน้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อล้างสีที่ย้อมไม่ติดหรือที่ติดกับฟางออกแล้วนำไปมัดใหม่อีกรอบเพื่อย้อมสีต่อไป เมื่อย้อมได้ทุกสีตามต้องการแล้วก็จะนำไปใส่โครงมักอีกครั้งและใช้กรรไกรตัดปอฟาง

5. การปั่นหมี่ใส่หลอด หมี่ที่มัดและย้อมสีแล้วจะนำไปตากให้แห้งแล้วนำมาแก้ปอฟางออกให้หมดต่อมาจึงนำมาใส่กงปั่นด้าย (อุปกรณ์ที่ใช้ในการปั่นด้ายทำด้วยไม้ประกอบเป็นโครงอาจมีขนาดเล็กหรือใหญ่ตามความถนัดของคนปั่นมีขาตั้ง 2 ข้างขนานกัน) การปั่น จะปั่นใส่หลอดโดยอาศัยหลาช่วย (อุปกรณ์ปั่นด้ายและหลอดด้ายโดยใช้เหล็กหรือไม้เป็นที่ปั่นส่วนที่สำคัญเรียกว่าเหล็กในทำด้วยเหล็กแท่งเล็กสำหรับใส่หลอดด้าย) การปั่นอาจปั่นได้เกือบเต็มขนาดหลอด แต่ต้องไม่ลุ่ยแล้วตัดด้ายหลอดด้ายที่ปั่นเสร็จแล้วจะร้อยเชือกไว้ทีละหลอด

6. การทอผ้า นำหลอดด้ายที่ปั่นเสร็จแล้วไปทอผ้าให้เป็นชิ้น

เทคนิคการผลิต

เทคนิคการทอผ้าปัจจัยที่จะทำให้ผ้ามัดหมี่ลายสวย เนื้อเรียบ ขึ้นอยู่กับกระบวนการก่อนทอ กล่าวคือ

1. การมัดลาย ต้องมัดลายให้ตรงกัน

2. การปั่นด้าย ด้ายที่นำมาปั่นต้องแห้งสนิทเป็นด้ายที่มีคุณภาพดี ไม่ยึด

3. การค้นด้าย ต้องใช้แรงค้นอย่างสม่ำเสมอจะทำให้ด้ายยึดตัวเท่าๆ กัน

4. การขึ้นเครือด้าย ต้องขึ้นให้ด้ายมีความตึงเสมอกันทุกเส้น และขนาดความยาวของด้ายพุ่งที่กำหนดไว้แต่ละลาย ต้องมีความยาวเท่ากับหน้าผ้าพอดี

5. การทอ ต้องทอให้น้ำหนักมือสม่ำเสมอโดยเฉพาะเมื่อทอผ้าได้ยาวได้ระดับหนึ่ง จะต้องม้วนผ้าเข้าแกนม้วนผ้าระยะแรกต้องผ่อนแรง

แหล่งจำหน่าย

ศูนย์ศิลปิน OTOP เลขที่ 22 หมู่ที่ 4ตำบลโคกเจริญ อำเภอโคกเจริญ จังหวัดลพบุรี 15250

โทร. 089- 9059332

Location
บ้านโคกเจริญ
No. 22 Moo 4 บ้านโคกเจริญ
Tambon โคกเจริญ Amphoe Khok Charoen Province Lop Buri
Details of access
Reference นายวินัย ปัจฉิม
No. 22 Moo 4 บ้านโคกเจริญ
Tambon โคกเจริญ Amphoe Khok Charoen Province Lop Buri ZIP code 15250
Tel. 08 9905 9332
Comment
Please Login Before comment.

Username
Password
No comment.
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่