วัตถุประสงค์ของการจัดโต๊ะหมู่บูชา หมู่ 4
การจัดโต๊ะหมู่บูชา เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พร้อมทั้งตั้งเครื่องบูชาตามคตินิยมของชาวพุทธตามที่ปรากฏในพุทธประวัติว่าเมื่อพุทธบริษัทมีความประสงค์จะบำเพ็ญกุศลอย่างหนึ่งอย่างใด มักจะนิมนต์พระสงฆ์โดยมีพระพุทธเจ้าเสด็จมาเป็นประธานสงฆ์ในงานกุศลนั้นๆ ดังนั้นเพื่อให้มีความสมบูรณ์ในพระรัตนตรัย คือ พระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ ตามคตินิยมดังกล่าว ในการจัดงานที่เกี่ยวกับศาสนพิธีทางพระพุทธศาสนา พุทธศาสนิกชนจึงนิยมอัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐานเป็นนิมิตแทนองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าในพิธีนั้นๆด้วย เพื่อให้มีพระรัตนตรัยครบบริบูรณ์ พุทธศาสนิกชนจึงได้มีการตั้งโต๊ะหมู่บูชาและอัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานบนโต๊ะหมู่บูชาโต๊ะสูงสุดแถวกลาง พร้อมทั้งตั้งเครื่องบูชาที่โต๊ะในลำดับที่รองลงมาตามความเหมาะสม ซึ่งสมเด็จพระมหาวีรวงศ์(วิน ธมฺมสารเถร) วัดราชผาติการาม ได้ให้ความหมายของ “รัตนะ” ว่า “เพราะพระพุทธ พระธรรม และพระสงฆ์ เป็นสิ่งที่ควรกระทำความยำเกรงให้เกิดขึ้นแก่พุทธศาสนิกชน เพราะมีค่ามาก เพราะชั่งไม่ได้ เพราะเห็นได้ยาก เพราะสั่งสมได้เฉพาะคนดี ถ้าไม่เคารพนับถือยำเกรงก็ไม่เป็นรัตนะ ถ้าทำมักง่ายกับพระรัตนตรัยก็ไม่เป็นรัตนตรัย ถ้าคนพาลคนชั่วนับถือก็ไม่เป็นรัตนะ”** ดังนั้น เพื่อให้เกิดความยำเกรงในพระรัตนตรัยดังกล่าว บรรพบุรุษของเราที่มีความเคารพในพระรัตนตรัยแต่โบราณ จึงได้ปฏิบัติสืบกันมาเมื่อมีพิธีการต่างๆ ทั้งที่เป็นศาสนพิธีหรือการประกอบพิธีที่ต้องการความเป็นสิริมงคล ได้มีการจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาในพิธีการนั้นๆ เป็นประเพณีสืบต่อกันมา ไม่ว่าจะเป็นงานพระราชพิธี รัฐพิธี หรือราษฎร์พิธี ทั้งงานพิธีทำบุญที่เป็นงานมงคลและงานอวมงคล ล้วนนิยมตั้งโต๊ะหมู่บูชาทั้งสิ้น ดังนั้น เมื่อมีการอัญเชิญพระพุทธรูปมาประดิษฐาน ควรจัดสถานที่ที่ประดิษฐานให้เหมาะสมและมีความสง่างาม บรรพบุรุษไทยจึงมีการพัฒนาและจัดแปลงจากม้าหมู่มาเป็นโต๊ะหมู่บูชาเพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้ายและให้มีความสวยงาม ซึ่งต่อมาการจัดโต๊ะหมู่บูชาถือเป็นเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมของชาติไทย และเป็นมรดกทางภูมิปัญญาและแนวคิดในการแสดงออกถึงความเคารพสักการะต่อสิ่งอันเป็นที่เคารพนับถือแห่งตนของบรรพบุรุษไทยซึ่งลักษณะการตั้งโต๊ะหมู่นั้นได้พัฒนาจากการตั้ง โดยมีวัตถุประสงค์เพียงเพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ในงานพิธีทางพระพุทธศาสนาต่อมามีการจัดตั้งโต๊ะหมู่บูชาเพื่อวัตถุประสงค์อื่น แต่ทั้งนี้ก็เป็นไปด้วยความเคารพสักการะในสิ่งที่นำมาประดิษฐานบนโต๊ะหมู่ทั้งสิ้น
ความสำคัญของโต๊ะหมู่บูชา
ปัจจุบันในพิธีที่เกี่ยวข้องกับพระสงฆ์ในพระราพิธี รัฐพิธี หรือราษฏร์พิธี ไม่ว่าจะเป็นงานมงคลหรืองานอวมงคลก็ตาม นิยมตั้งโต๊ะหมู่บูชาทั้งสิ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นที่ประดิษฐานพระพุทธรูป พร้อมเครื่องบูชาตามคตินิยมของชาวพุทธ ดังนั้น โต๊ะหมู่บูชาจึงมีความสำคัญในแง่ของการเสริมแรงศรัทธาและสร้างความเชื่อมั่นของบุคคล ในหนังสือ “โต๊ะหมู่บูชา” ของผู้ช่วยศาสตราจารย์ สุทัศนีย์ บุญโญภาส จำแนกความสำคัญของโต๊ะหมู่บูชาไว้หลายประการ คือ
๑. เป็นสัญลักษณ์เตือนพุทธศาสนิกชน(ทั้งในกลุ่มของพระสงฆ์และฆราวาส) ให้มีจิตสำนึกและเกิดศรัทธาเลื่อมใสในพระพุทธศาสนา เนื่องจากการจัดโต๊ะหมู่บูชาที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาต้องอัญเชิญพระพุทธรูปประดิษฐานบนโต๊ะหมู่ตรงกลางที่สูงที่สุด เสมือนหนึ่งพระพุทธเจ้าได้ประทับอยู่ตลอดเวลาและเป็นประธานในพิธีด้วย เป็นการย้ำเตือนให้พุทธศาสนิกชนซาบซึ้งถึงพระปัญญาของพระพุทธองค์ที่ทรงตรัสรู้ได้ด้วยพระองค์เอง
๒. เป็นสัญลักษณ์ที่แสดงถึงการถวายความจงรักภักดี ความเคารพบูชาในพระมหากษัตริย์ และพระบรมวงศานุวงศ์ โต๊ะหมู่บูชาที่จัดตั้งเครื่องสักการบูชา ดังเช่น การจัดโต๊ะหมู่บูชาในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถ และพระบรมวงศานุวงศ์ รวมทั้งบุคคลอันเป็นที่เคารพนับถือแห่งตน
๓. เป็นสัญลักษณ์แสดงถึงวัฒนธรรมและประเพณีไทยที่มีมายาวนานไม่ว่าจะเป็นลวดลาย การแกะสลัก ลงรักปิดทอง และการฝังมุกของชุดโต๊ะหมู่บูชาเป็นลวดลายวิจิตรสวยงาม หรือการจัดตกแต่งพานพุ่มบูชาพระรัตนตรัย พานพุ่มเฉลิมพระเกียรติ และการจัดแจกันดอกไม้แบบไทยที่สะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาไทย ศิลปะการประดิษฐ์ดอกไม้แบบไทย ซึ่งมีความประณีตงดงาม
โต๊ะหมู่บูชาหมู่ 4
ส่วนมากใช้สำหรับพิธีทำบุญที่บ้าน ที่ทำงาน ที่ไม่เป็นพิธีการมากนัก นำโต๊ะมาประกอบชุดใหม่เพียง 4 ตัว ประดิษฐานพระพุทธรูปที่ตัวบนสุด วางพานพุ่มดอกไม้ ที่โต๊ะด้านข้าง 2 ตัว ส่วนโต๊ะตัวล่างสุด ด้านหน้าวางพานพุ่ม และเชิงเทียน ส่วนกระถางธูปวางที่โต๊ะตัวรองล่างสุด