เมตตาธรรมมูลนิธิสกลนคร ก่อตั้งโดยคณะพ่อค้าในจังหวัดสกลนครที่มีจิตศรัทธาร่วมแรงร่วมใจกันดำเนินการ ตั้งอยู่บนที่ดิน ๓ ไร่ โดยนายเต็ก ตีรสวัสดิชัย เป็นผู้บริจาคที่ดินให้กับเมตตาธรรมมูลนิธิสกลนครเมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๑๕ เพื่อสร้างสำนักงานเมตตาธรรมมูลนิธิสกลนคร ศาลเจ้าไต่ฮงกงโจวซือและศาลเจ้าปุงเถ่ากง-ปุงเถ่าม่า นายกู้ชัย จิระวัฒนาสมกุล บริจาคถมที่ดินปรับพื้นที่ให้สูงขึ้น ได้รับการจดทะเบียนรับใบอนุญาตจากกรมการศาสนา กระทรวงศึกษาธิการเมื่อวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๑๖ ได้ประกอบพิธีเปิดป้ายสำนักงานเมตตาธรรมมูลนิธิสกลนคร โดยมีรายนามผู้จดทะเบียนก่อตั้ง ๑๓ รายดังนี้ (๑.)นายเต็ก ตีรสวัสดิชัย (๒.)นายวิรัช ลิ้มเลิศเจริญวนิช (๓.)นายประเสริฐ ลิ้มเลิศเจริญวนิช (๔.)นายปองศักดิ์ ว่องพานิชเจริญ (๕.)นายวิรัช เอื้อกูลวราวัตร (๖.)นายเอี้ยวเพ้ง แซ่เอี้ยว (๗.)นายสมบูรณ์ ประมวลเจริญกิจ (๘.)นายดอยู้ แซ่เตีย (๙.)นายฉั่งเอี๋ยว แซ่คู (๑๐.)นายย่งเซีย แซ่อึ้ง (๑๑.)นายสุยหยู แซ่คู (๑๒.)นายเซี่ยวยัง แซ่โง้ว และ(๑๓.)นายสุรินทร์ วรรัตนธรรม ซึ่งตั้งอยู่บ้านเลขที่ ๑๗๘๐/๒๔ ถนน ต.พัฒนา ตำบลธาตุเชิงชุม อำเภอเมืองสกลนคร เมื่อวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๑๗ โดยมีวัตถุประสงค์หลักตามข้อ ๒ แห่งตราสารของเมตตาธรรมมูลนิธิสกลนคร ดังนี้ (๑.) รักษาและปฏิบัติซึ่งจารีตประเพณีและวัฒนธรรมอันดีงามของบรรพชน (๒.)ปฏิบัติงานอันเกี่ยวกับการสังคมสงเคราะห์ เช่น บรรเทาสาธารณ ส่งเสริมการศึกษา การรักษาพยาบาล การศาสนา การฌาปนสถาน สุสาน การสังคมสงเคราะห์คนอนาถาและคนยากจน ทั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองด้านบริหารคณะกรรมการบริหารได้รับการเลือกตั้งจากสมาชิก จำนวน ๑๕ ท่าน บริหารงานวาระละ ๒ ปี มีประธานกรรมการบริหารมาแล้ว ๗ ท่านดังนี้ (๑.)นายวิเชียร อรุณเกียรติก้อง (๒๕๑๗-๒๕๑๘,ประธานกรรมการบริหารก่อตั้ง) (๒.)นายเต็ก ตีรสวัสดิชัย(๒๕๑๙-๒๕๒๐) (๓.)นายสุรินทร์ วรรัตนธรรม (๒๕๒๑-๒๕๓๒) (๔.) นายสุนทร คูวัฒนะศิริ (๒๕๓๓-๒๕๓๔) (๕.)นายย่งเซีย แซ่อึ้ง (๒๕๓๕-๒๕๓๖) (๖.)นายฮุย แต้ศิริเวชช์ (๒๕๓๗-๒๕๕๔) (๗.)นายสมบูรณ์ อึงอารี (๒๕๕๕-ปัจจุบัน)ด้านกิจกรรมในด้านการรักษาและปฏิบัติซึ่งจารีตประเพณีและวัฒนธรรม เมตตาธรรมมูลนิธิสกลนครได้ตระหนักถึงความสำคัญยิ่งในการจัดงานตามประเพณีและวัฒนธรรมของบรรพชน เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่อนุชนรุ่นหลังต่อไป อาทิ การจัดงานสมโภชปึงเถ้าก่ง-ปึงเถ้าม่า ทุกๆ ปี ตลอดมาจนถึงขณะนี้กว่า ๕๐ ปีแล้ว เพื่อเป็นกิจกรรมสักการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้เป็นที่พึ่งทางจิตใจของเหล่าสมาชิก กิจกรรมเทศกาลถือศีลกินเจ เทศกาลตรุษจีนและกิจกรรมเทศกาลง่วนเซียว เพื่อสร้างความรักความสามัคคี ความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของสมาชิกเป็นต้น ในส่วนของการปฏิบัติงานอันเกี่ยวกับการสังคมสงเคราะห์เพื่อสาธารณะประโยชน์ ได้มุ่งเน้นกิจกรรมอย่างต่อเนื่อง ทั้งกิจกรรมเฉพาะกิจและกิจกรรมหลักตลอด ๒๔ ชั่วโมง อาทิ กิจกรรมช่วยเหลือบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้กับผู้ยากไร้ ผู้ตกทุกข์ได้ยาก ผู้พิการ ผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย อัคคีภัยและภัยหนาว บางกิจกรรมได้ร่วมกับองค์กรอื่นและองค์กรภาครัฐ เช่น จังหวัดเคลื่อนที่ งานกาชาดจังหวัด โรงพยาบาลจังหวัด เทศบาล พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ตลอดจนมูลนิธิปอเต็กตึ้งจากกรุงเทพฯ นำข้าวสารอาหารแห้ง เครื่องนุ่งห่ม ยารักษาโรค สังกะสี เพื่อไปแจกจ่ายให้กับผู้ยากไร้ในถิ่นทุรกันดาร ในส่วนของกิจกรรมหลักมีหน่วยบรรเทาสาธารณภัยคอยบริการช่วยเหลือประชาชนตลอด ๒๔ ชั่วโมง จากผู้ประสบอุบัติเหตุจากท้องถนนหรือเกิดเหตุร้ายต่างๆ หน่วยบรรเทาสาธารณภัยของมูลนิธิจะดำเนินการช่วยเหลือให้ทันกับเหตุการณ์ทันทีทันใด เมตตาธรรมมูลนิธิสกลนครยังมีกิจกรรมหลักในการส่งเสริมการศึกษา การกีฬา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยมอบทุนการศึกษา มอบทุนการกีฬาและส่งเสริมศาสนาและวัฒนธรรมของท้องถิ่น กิจกรรมต่างๆ ที่เมตตาธรรมมูลนิธิสกลนครได้ดำเนินมาโดยตลอดล้วนนำมาซึ่งความผาสุกความเอื้ออาทรให้กับสังคมที่ดีขึ้น ให้กับท้องถิ่นและประเทศชาติในที่สุด เมตตาธรรมมูลนิธิสกลนครควรได้รับการสรรเสริญและยกย่องอย่างยิ่ง (ผู้ให้ข้อมูลนายฮุย แต้ศิริเวชช์ อดีตประธานเมตตาธรรมมูลนิธิ ๙ สมัย อำเภอเมืองสกลนคร)