ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 7° 56' 59.2382"
7.9497884
ลองจิจูด (แวง) : E 100° 1' 40.9472"
100.0280409
เลขที่ : 108162
กลุ่มผลิตภัณฑ์กระจูด
เสนอโดย นครศรีธรรมราช วันที่ 11 สิงหาคม 2554
อนุมัติโดย นครศรีธรรมราช วันที่ 7 กันยายน 2555
จังหวัด : นครศรีธรรมราช
0 1121
รายละเอียด

การที่จะนำกระจูดมาใช้ให้เกิดประโยชน์นั้น ต้องผ่านการทำหลายขั้นตอน ดังนี้

1) การถอน คือการทำให้กระจูดหลุดออกจากกอโดยใช้มือรูดกระจูดให้มีขนาดพอถอนขึ้น แล้วรวบให้เข้าเป็นมัดเดียวกันนำมาพันเข้ากับมือ ใช้มือทั้งสองข้างจับและดึงอย่างแรงจนกระจูดหลุดออกมาจากกอ นำมากองไว้เป็นกองๆ เมือได้มากพอแล้วแยกกระจูดทำเป็นมัด ขนาดเท่าลำขาคน การทำกระจูดเป็นมัดๆ นี้ เรียกว่า “การทำกำ” เพื่อสะดวกแก่การขนย้ายและการใช้งาน

2) การแยกกระจูด คือการคัดเลือกกระจูดที่มีขนาดยาวปานกลาง และสั้นออกเป็นส่วนๆ ซึ่งตามภาษาชาวบ้านเรียกว่า “โส้จูด”เพื่อให้กระจูดเหมาะเหมาะสมกับการใช้งาน และราคาของกระจูดก็แตกต่างไปตามความยาวของกระจูดด้วย ดังนั้นการโส้กระจูด จึงมีประโยชน์ต่อการขายและการใช้งาน

3) การปาด คือการนำเอากระจูดที่โส้แล้วหรือแยกแล้วมาตัดโคนและปลายออกตามที่ต้องการขนาดของความยาว และประโยชน์ที่นำไปใช้

4) การคลุก คือการนำเอากระจูดไปปาดแล้วนำมาคลุกกับโคลนตม (โคลนตมต้องเป็นโคลนตมที่เตรียมเอาไว้ คือเอาดินปลวกหรือดินเหนียว หรือดินเหนียวปนทราย มาผสมกับน้ำและเหยียบให้เหลวอย่างดี) การเอากระจูดมาคลุกโคลนตมนั้นทำให้กระจูดไม่ผุเก็บไว้ได้นาน ถ้าหากไม่คลุกโคลนตม กระจูดจะผุเก็บไว้ไม่ได้

5) การผึ่งแดด คือการเอากระจูดที่คลุกโคลนตมแล้วมาผึ่งแดดให้แห้ง การตากนั้นตากให้โคลนแห้งสนิท เป็นอันว่าเป็นกระจูดไว้ใช้งานได้ หรือขายได้

กรรมวิธีในการนำกระจูดไปทำผลิตผล

1) การคัดเลือกกระจูด คือการนำเอากระจูดที่ผึ่งแห้งดีแล้วมาเลือกเอากระจูดที่ใช้งานไม่ได้ออก เช่น ดอกที่ขาด ขนาดเล็กเกินไป เหล่านี้ออก

2) การเหยียบ คือการเอากระจูดที่คัดเลือกแล้ว มาเหยียบด้วยเท้าทั้งสอง เพื่อให้ตอกระจูดแตกหรืออ่อนตัวลง

3) การตำ หรือภาษาถิ่นเรียก ถิ่ม คือการเอากระจูดที่ผ่านการเหยียบแล้วมาตั้งบนไม้กระดานซึ่งเตรียมไว้โดยเฉพาะใช้สากตำ (สากขนาดโตกว่าสากตำข้าว) จนกระทั้งตอกแบนและอ่อนตัว

ในปัจจุบันการทำกระจูดนั้นบางคนใช้วิธีการใหม่คือใช้เครื่องทุ่นแรง แทนที่จะตำต้องออกแรงมากกลับใช้ลูกกลิ้งทับแทน คือนำปูนซีเมนต์มาหล่อคล้ายปล้องบ่อ นำมากลิ้งทับกระจูดแทนตำ ทำให้กระจูดแบนสามารถใช้งานได้เหมือนกัน

4) ถอดทับ คือการที่นำเอาเปลือกที่หุ้มโคนกระจูดออก เปลือกที่หุ้มโคนกระจูดเรียกว่า ทับ จึงเรียกว่า ถอดทับ

5) บุบ คือการนำเอากระจูดที่ถอดทับออกแล้วไปตำอีกครั้ง เพื่อให้จูดอ่อนตัว การตำครั้งที่สองนี้เรียกว่า บุบ

เมื่อได้กระจูดตามกระบวนการที่กล่าวแล้ว นำเอากระจูดที่ได้มาสาน หรือทอให้เป็นสิ่งต่างๆได้ แต่การสานกระจูดในลักษณะนี้ ผลิตภัณฑ์ที่ได้จะไม่สวยงามและเป็นลวดลายถ้าจะทำให้สวยงามจะต้องผ่านการย้อมสีใหม่หลายๆสีและนำมาสานเป็นลวดลายต่างๆ ได้

กระบวนการย้อมสีกระจูด มีดังนี้

- ต้มน้ำให้เดือดแล้วนำสีที่จะย้อมใส่ลงไปตามขนาดที่ต้องการ เอากระจูดที่ผ่านการตำเรียบร้อยแล้วมาย้อมใส่ลงไปในสี นำอะไรมาทับให้จมและต้มให้เดือด เมื่อเดือดแล้วนำเอากระจูดขึ้นมาจากกระทะนำไปล้างน้ำ เพื่อให้สีที่ติดค้างข้างนอกออก เพื่อไม่ให้เปื้อนเมื่อนำไปใช้ เสร็จแล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง สีที่ย้อมจะเป็นสีอะไรก็ได้เพราะถ้าหากมีหลายมีสามารถสานให้สวยงามได้มากยิ่งขึ้น เมื่อผึ่งแดดแห้งดีแล้วนำไปสานได้ การสานกระจูดที่ย้อมสีอาจสานเป็นลวดลายหรือสานเป็นตัวหนังสือ หรือเป็นรูปภาพก็ได้ และผลงานที่ออกมามีราคาแพงด้วย
- การสานกระจูดให้เป็นงานนั้นมีมากมายด้วยกัน ที่นิยม เช่น สานเสื่อ กระสอบนั่ง กระสอบเขียด กระสอบหมาก และแผ่นป้ายโฆษณาต่างๆ แต่ที่ทำให้รายได้ดีและมีราคาแพงคือการนำมาทำเป็นผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ต่างๆ เช่น ทำกระเป๋า ทำหมวก ทำพับ ทำของใช้ในบ้าน ฯลฯ การทำเครื่องใช้เหล่านนี้เป็นงานประณีต และมีเครื่องมือในการผลิตหลายอย่าง

กรรมวิธีในการทำผลิตภัณฑ์

การนำกระจูดมาทำผลิตภัณฑ์มีหลายขั้นตอน ดังนี้

1) การเอากระจูดมาสานเป็นเสื่อ โดยสานเป็นลวดลายต่างๆ เช่น ลายขัด ลายสอง ลายสาม ลายสี่ ลายลูกแก้ว ลายดาว ดาวล้อมเดือน ดาวกระจาย ดอกจำปูน ดอกพิกุล ดอกก้างปลา ฯลฯ และอื่นๆ ตามแต่ประดิษฐ์ โดยใช้จูดที่ย้อมสีจึงทำให้มีลวดลายสวยงามมาก

2) นำเอาเสื่อที่สานเป็นลวดลายต่างๆ เหล่านี้มาตัดให้เป็นรูปที่ต้องการ เช่น ต้องการทำหมวก ใช้แบบพิมพ์ที่เตรียมไว้แล้วมาตัดเป็นแบบ ทำให้ได้รูปต่างๆตามต้องการ

3) นำเอารูปที่ได้จากการตัดมากกุ๊นด้วยผ้าเพื่อไม่ให้หลุดและเย็บด้วยจักร การเย็บต้องเย็บด้วยจักรอุตสาหกรรม เพราะกระจูดหนา จะเย็บด้วยจักรเย็บผ้าไม่สวยงามและเย็บไม่ได้ดี

4) เมื่อได้รูปที่กุ๊นด้วยผ้าแล้ว นำมาเย็บเป็นรูปตามที่ต้องการ

5) เมื่อได้เครื่องใช้ตามที่ต้องการแล้ว นำเอาเครื่องใช้เหล่านั้นมาตกแต่งให้สวยงาม เช่น ติดกระดุม หรือทาน้ำมัน เพื่อป้องกันไม่ให้สีออก เหล่านี้เป็นต้น เราจะได้เครื่องใช้ตามที่ต้องการ

จะเห็นว่าขั้นตอนการทำกระจูดมีขั้นตอนมากมาย และเป็นการกระทำที่ประณีตและละเอียด ดังนั้นผลิตภัณฑ์ที่ได้จึงมีราคาแพงพอสมควร แต่เมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องใช้ประเภทเดียวกันแต่ทำด้วยวัสดุอย่างอื่น ผลิตภัณฑ์ที่ทำด้วยกระจูดยังนับว่ามีราคาถูกกว่าอย่างอื่นมาก

3.6 การใช้ประโยชน์

เครื่องใช้ภายในบ้าน เช่น กระบุง แจกัน เสื่อ และเครื่องใช้อื่นๆ เช่น กระเป๋าถือ หมวก พัด ฯลฯ

3.7 ชื่อผู้ผลิต นางพุม หนูรอด

3.8 สถานที่จัดจำหน่าย ศูนย์ผลิตภัณฑ์กระจูด

3.9 ชื่อหัวหน้ากลุ่ม นางพุม หนูรอด

สถานที่ตั้ง
กลุ่มผลิตภัณฑ์กระจูด
เลขที่ 85 หมู่ที่/หมู่บ้าน 4/บางน้อย ซอย - ถนน -
ตำบล ท่าเสม็ด อำเภอ ชะอวด จังหวัด นครศรีธรรมราช
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
-
บุคคลอ้างอิง นางพุม หนูรอด
ชื่อที่ทำงาน -
เลขที่ 85 หมู่ที่/หมู่บ้าน 4/บางน้อย ซอย - ถนน -
ตำบล ท่าเสม็ด อำเภอ ชะอวด จังหวัด นครศรีธรรมราช รหัสไปรษณีย์ 80000
โทรศัพท์ 081-0835156 โทรสาร -
เว็บไซต์ -
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่