หลวงปู่สรวง ที่เรารู้จักกันในนามนี้ปัจจุบันนั้น ในอดีตชาวบ้านในท้องที่อำเภอขุขันธ์ และอำเภอใกล้เคียงที่มีภูมิลำเนาอยู่แถบชายแดนตามเชิงเขาพนมดงรัก ซึ่งเป็นแนวเขตแดนระหว่างกัมพูชากับประเทศไทย มักจะเห็นท่านเป็นผู้ทรงศีล ปฏิบัติธรรม พักอาศัยอยู่ตามกระท่อมในไร่นาของชาวบ้าน และเรียกขานว่า “ลูกเอ๊าวเบ๊าะ” หรือ “ลูกตาเบ๊าะ” (เป็นภาษาเขมร หมายถึงพระดาบสที่เป็นผู้รักษาศีลอยู่ตามถ้ำเขาลำเนาไพร) หลวงปู่เป็นคนพูดน้อยและไม่เคยเล่าประวัติส่วนตัวให้ใครฟัง จึงไม่มีใครสามารถรู้อายุและประวัติที่แท้จริงของท่านได้ หลวงปู่เป็นพระสมถะเรียบร้อย มีความเป็นอุเบกขาสูงสุด อยู่อย่างสันโดษ ไม่สะสมสิ่งของสิ่งใด และไม่ยึดติดกับสิ่งใด เป็นพระผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ ให้ความเมตตา ให้ความอบอุ่น และให้ทุกอย่างกับลูกหลานเป็นที่เคารพนับถือของประชาชนทั้งชาวไทย-ชาวกัมพูชา
หลวงปู่สรวงจะจำวัดอยู่ตามกระท่อมปลายนา หลังเล็กๆ มีไม้กระดานเพียงไม่กี่แผ่นที่พอนอนได้ เท่านั้น ทุกแห่งที่หลวงปู่จำวัดจะมีเสาไม้ไผ่สูงๆ ปักอยู่มีเชือกขึงอยู่ระหว่างกระท่อม กับเสาไม้หรือต้นไม้ที่อยู่ใกล้ๆ มีว่าวขนาดใหญ่ทำด้วยจีวรหรือกระดาษผูกไว้เป็นสัญลักษณ์และที่สำคัญหลวงปู่จะก่อกองไฟไว้เสมอ เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2543 หลวงปู่ได้มีอาการอาพาธ คณะศิษย์นำไปรักษาที่โรงพยาบาลจังหวัดสุรินทร์ แต่ก็เดินทางไปไม่ถึง และได้ละสังขาร คณะศิษย์ได้ร่วมใจกันนำสรีระสังขารมาบำเพ็ญกุศลที่วัดไพรพัฒนา โดยได้จัดงานสืบสานพระพุทธศาสนาบูชาปูชะนียาจารย์ สรงน้ำเปลี่ยนผ้าไตร สังขารหลวงปู่สรวงทุกปี รับช่วงเทศกาลสงกรานต์ ด้วยการบวชบรรพชาอุปสมบทหมู่ ทั้งไทย-กัมพูชา บวชเนตขัมมะบารมี ปฏิบัติธรรมกัมมัฎฐาน ถือศีล บูชาคุณบรวงสรวงเทพเจ้าแห่งความศักดิ์สิทธิ์ วัตถุมงคลหลวงปู่โดดเด่นหลายทางตามคำอธิษฐาน เช่น เมตตามหานิยม เจ้านายรัก ติดต่องานดี ด้านโชคลาภค้าขายดี คล่องเงินไม่ขาดสาย ด้านเสี่ยงโชค เล่นการพนันเสี่ยงดวง หวยหุ้น ล๊อตเตอรี่ เห็นผลแน่นอน ความปลอดภัยแคล้วคลาด ค้าขายธุรกิจเจริญรุ่งเรืองเสริมดวง หนุนดวงชะตา คงกระพันชาตรี ป้องกันผีสางนางไม้เจ้าที่เจ้าทาง คุณไสย์ แก้อาถรรพ์ ป้องกันฟ้าผ่า ไฟไหม้ได้ คำสอนหลวงปู่ ออย เตียน สรูล แปลว่าให้ทานมีความสุขบายตึ๊กเจีย แปลว่า ข้าวน้ำดี หมายถึงให้อยู่ดีมีสุข อุดมสมบูรณ์ด้วยความพอเพียง