ประเพณีแห่ปราสาทผึ้ง เทศกาลวันออกพรรษาขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๑๑
ความสำคัญ งานแห่ปราสาทผึ้งในเทศกาลออกพรรษาของชาวบ้านแดงไม่จัดใหญ่โต แต่ปฏิบัติต่อเนื่องมาตลอดโดยแต่ละหมู่บ้านจะช่วยกันทำปราสาทผึ้ง ๑ – ๒ หลัง นำมาแห่รอบวัด และถวายวัดโดยจะมีปัจจัยสมทบเพื่อถวายวัดด้วย และทำในพิธีการทำบุญอุทิศส่วนกุศลหา ผู้ล่วงลับไปแล้ว
ประเพณีการแห่ปราสาทผึ้งมีความสำคัญทางด้านความรู้สึกทำตามจารีตประเพณีเกิดความมั่นคงทางจิตใจ ต้องการให้เกิดบุญกุศลก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญ
เป็นความเชื่อพื้นบ้าน ความเชื่อที่ว่าคนที่ตาย ไปแล้ว ดวงวิญญาณ ก็ยังต้องการสิ่งต่าง ๆเช่นเดียวกับเมื่อครั้งที่ยังมีชีวิตอยู่ เป็นคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต้องการที่อยู่อาศัย ทำให้มีการประกอบพิธีเซ่นสรวง ดวงวิญญาณ ตลอดจนการสร้างเรือนจำลอง เพื่ออุทิศส่วนกุศลจากการสร้างปราสาทผึ้งแก่ดวงวิญญาณบรรพบุรุษหรือเจ้ากรรมนายเวรผู้ล่วงลับ
การทำปราสาทผึ้ง เรียกว่า'ต้นผึ้ง'หรือ'ต้นเผิ่ง'รูปทรงของปราสาทผึ้งโบราณจะสร้าง ขึ้นจากโครงไม้ไผ่ ตกแต่งด้วยหยวกกล้วยที่แทงเป็นลวดลายหรือ รูปทรงต่าง ๆ เช่น ทรงตะลุ่ม ทรงหอมียอดประดับหลังคา ทรงสิมหรืออุโบสถแบบอีสาน จากนั้นก็ทำเอาดอกผึ้ง ที่ชาวบ้านจะนำขี้ผึ้งใส่ถ้วยหรือขัน ลงลอยในน้ำร้อนที่ตั้งไฟอ่อน ๆ ให้ขี้ผึ้งละลาย แล้วใช้ผลมะละกอดิบ มาปอกเปลือกตรงส่วนก้น ให้มีความเว้าคล้ายกลีบดอกไม้ จุ่มลงในขี้ผึ้งที่ละลายแล้ว ก่อนยกลงจุ่มในน้ำเย็น ดอกผึ้งก็จะหลุดล่อนออกมา ซึ่งทำได้หลายสีสัน โดยใช้ขี้ผึ้งสีต่างๆ เอาดอกผึ้งไปตกแต่งปราสาท ก็จะใช้ไม้กลัดเสียบดอกบานไม่รู้โรย วางลงตรงกลางดอกผึ้งเป็นเหมือนเกสรดอกไม้