สวนสัตว์ตรการ ตั้งอยู่ เลขที่ 234 ถ.อุบล-ตระการ ต.ขุหลุ อ.ตระการพืชผล จ.อุบลราชธานี 34130 Tel.(045)481889 Fax.(045)482365ห่างจากตัวจังหวัดอุบลฯประมาณ 38 กิโลเมตร อยู่ติดทางหลวงที่ 1050ถนนจากจังหวัดอุบลราชธานี ไปยัง อำเภอตระการพืชผล –อำเภอเขมราฐ
เส้นทางนี้ สามารถเดินทางต่อไปยัง อ.โขงเจียม(ไปผาแต้ม) และ อ.พิบูลมังสาหาร(แก่งสะพือหรือช่องเม็ก)ได้อีกด้วย
สวนเสือตระการเริ่มเปิดดำเนินการเมื่อวันเสาร์ที่ 8เมษายน 2543โดยมี ส.ส.ชูวิทย์ พิทักษ์พรพัลลภ และ นวพล ชักชวน ผู้ก่อตั้งสวนเสือตระการ เป็นประธานกรรมการบริหาร ในนามของ บริษัท สวนสัตว์ตระการ จำกัด เริ่มต้นด้วยทุนจดทะเบียน 1ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ.2543 และเพิ่มทุนจดทะเบียนเป็น 10ล้านบาทเมื่อปี พ.ศ.2548 และปัจจุบันได้เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัท คุ้มเสือตระการ จำกัดโดยมีนายนภพล นันตะโรหิต เป็นผู้จัดการทั่วไป
ปัจจุบันบริษัทฯได้ขยายกิจการสาขา คุ้มเสือ ไปยัง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ และได้เปิดดำเนินการแล้ว ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม 2551 [www.tigerkingdom.com]ก่อนที่จะเป็นสวนเสือตระการนี้ เกิดจากผู้ก่อตั้งได้เลี้ยงลูกเสือโคร่งมาตั้งแต่ ปี พ.ศ.2534 จำนวน2 ตัว ลูกเสือโคร่งทั้ง 2 ตัวนั้น ได้มาจากเพื่อนพ้องที่เลี้ยงเสือโคร่งมานานแล้ว(คุณกำแพงฯ) มิได้นำลูกเสือมาจากป่า เนื่องจากลูกเสือที่ได้มานั้น เป็นสายพันธุ์เบงกอล ซึ่งสมัยก่อนนั้น มีผู้นำเข้ามาจากอินเดียเป็นจำนวนมาก เพราะกฎหมายยังอนุญาตให้นำเข้า-ส่งออก สัตว์ป่าทั่วโลกได้อยู่ โดยเฉพาะ บริษัท Bangkok Wildlife ของคุณกำแพง เพลินธรรม นำเข้าสัตว์ประเภทเสือจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศไทยเป็นจำนวนมาก แต่กฎหมาย ข้อบังคับ สมัยก่อน(ก่อนปีพ.ศ.2535) ยังไม่มีการควบคุม จึงทำให้ผู้เลี้ยงเสือทั้งหลายสับสนกัน ว่าจะทำอย่างไร เนื่องจากเป็นสัตว์ป่านำเข้าจากต่างประเทศ อีกทั้งตาม พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า 2503 ให้ครอบครองได้ 2-4 ตัว(ตามบัญชีท้าย พ.ร.บ.ฯ)
เมื่อปี พ.ศ. 2535 พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าฯ เริ่มประกาศใช้ เสือโคร่งที่ผู้เลี้ยงในประเทศไทย ซึ่งความจริงส่วนใหญ่เป็นเสือโคร่งสายพันธุ์เบงกอล(สายพันธุ์เสือจากประเทศแถบอินเดีย) ก็ต้องนำมาแจ้งเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองฯ ที่มีถิ่นกำเนินในเมืองไทยไปโดยปริยาย (เสือโคร่งในประเทศไทย เป็นสายพันธุ์อินโดไชนีส ซึ่งตัวเล็กกว่าเสือสายพันธุ์เบงกอล) เพราะกฎกระทรวง ข้อบังคับ ตาม พ.ร.บ.สงวนฯ2535 ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์ป่าจากต่างประเทศ ยังไม่มีการประกาศใช้
ผู้ก่อตั้งฯ ก็ได้แจ้งการครอบครองลูกเสือดังกล่าวไว้กับกรมป่าไม้ ตามแนวทางของทางราชการใน ปี พ.ศ.2535 นั้นด้วยจากการเริ่มต้น เลี้ยงเสือโคร่งเพียง2 ตัว ตั้งแต่นั้นมา เราประสบความสำเร็จในการขยายพันธุ์เสือโคร่งเป็นอย่างมาก พ่อและแม่เสือโคร่ง ชื่อ อ้วน และ เจน ที่เป็นต้นกำเนิดของเหล่าเสือโคร่งที่นี่ ได้เกิดลูกทุกปี หลังจากอายุได้2 ปีกว่า ในบางปีให้ลูกถึงปีละ 2 ครอก รวมทั้งหมด ได้ลูกเสือ 28 ตัว (พ.ศ.2544) จากพ่อแม่เสือโคร่งเพียงคู่เดียวนี้
ผู้ก่อตั้งจึงได้ศึกษาเรื่องราวของเสือโคร่งมาโดยตลอด จนมีความรู้ มีประสบการณ์อย่างมาก เกี่ยวกับเสือโคร่ง จึงมีความประสงค์ที่จะถ่ายทอดความรู้ต่างๆที่มีจากประสบการณ์ ให้เกิดประโยชน์กับสาธารณชนทั่วไป แก่คนเลี้ยงเสือด้วยกัน และโดยเฉพาะเยาวชน ซึ่งส่วนใหญ่มีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับชีวิตเสือโคร่งในสภาพกรงขัง และเสือโคร่งในสภาพธรรมชาติน้อยมาก
ในอนาคต ที่นี่จะเป็นแหล่งค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับเสือที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งในเมืองไทย จะมีอาคารศูนย์ข้อมูลเสือ เปรียบเทียบให้เห็นทุกขั้นตอน ระหว่างเสือโคร่งเลี้ยงกับเสือโคร่งที่มีชีวิตอยู่ในป่า
สวนเสือตระการพยายามอย่างยิ่ง ที่จะปลูกฝังให้เยาวชน ให้มีจิตใจรักสัตว์ป่า รักธรรมชาติ รักป่าไม้ อยากเห็นพวกเราเป็นนักอนุรักษ์รุ่นต่อไป ช่วยกันรักษาสัตว์ป่า รักษาป่าไม้ สิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวเราเอง
กิจกรรมในสวนสัตว์ตระการ
ตั้งแต่เปิดดำเนินการสวนสัตว์ตระการ ได้จัดทำโครงการโรงเรียนสิ่งแวดล้อมขึ้น ได้ส่งหนังสือไปยังโรงเรียน สถานศึกษาทั้งหมดใน จ.อุบลราชธานี และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อให้ทางสถานศึกษาได้นำนักเรียนนักศึกษาเข้ามาทัศนศึกษา โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆทั้งสิ้น ทางสวนสัตว์ได้จัดเจ้าหน้าที่รับผิดชอบคอยบรรยายให้ความรู้และประเมินผล หวังที่จะให้เยาวชนที่เข้ามาอบรม ได้ความรู้ ได้ศึกษาชีวิตสัตว์ป่า และให้ช่วยกันดูแลสิ่งแวดล้อมรอบๆตัว โดยจะแนะนำให้เริ่มปฏิบัติที่สวนสัตว์ก่อน ในวันที่เข้ามาทัศนศึกษา และให้นำไปปฏิบัติทั้งที่บ้านและที่สาธารณะอื่นๆ
สวนสัตว์ตระการมีโอกาสได้อบรมนักเรียนมากกว่า 8,000 คน มากกว่า 100 โรงเรียน ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง ที่นักเรียน นักศึกษาได้รับความรู้และประสบการณ์ในการที่จะช่วยกันอนุรักษ์และดูแลสิ่งแวดล้อม