เมื่อประมาณ 100ปีเศษที่ผ่านมา มีชาวมุสลิมชาวปาทานอพยพเดินทางจากกรุงเทพมหานครและจังหวัดใกล้เคียง ได้มาตั้งรกรากที่ตำบลปากน้ำโพ บริเวณด้านหลังที่ว่าการอำเภอเมืองนครสวรรค์ในปัจจุบัน โดยประกอบอาชีพปศุสัตว์ และฆ่าโค กระบือจำหน่ายในเขตอำเภอเมืองนครสวรรค์ ต่อมาได้มีชาวมุสลิมเชื้อสายมลายูและเชื้อสายบังกลาเทศจากจังหวัดต่าง ๆ อพยพมาอยู่บนเรือนแพในแม่น้ำน่านบริเวณหน้าวัดตะแบกปัจจุบัน มีอาชีพทำเทียนหอม เทียนสีผึ้งสีปาก ขายโรตี จนเมื่อประมาณปี พ.ศ.2475 ชาวมุสลิมอพยพเข้ามาอยู่ในจังหวัดนครสวรรค์มากขึ้น ผู้อาวุโสจึงได้ปรึกษากันในการจัดสร้างมัสยิดเพื่อประกอบศาสนกิจ ชาวมุสลิมทุกครอบครัวจึงได้พร้อมใจกับบริจาคทรัพย์จัดซื้อที่ดินและก่อสร้างอาคารเรือนไม้ ตั้งเป็นมัสยิดปากีสถาน และภายหลังชาวมุสลิมได้อพยพกระจายไปยังอำเภอต่าง ๆ จึงได้มีการสร้างมัสยิดเพิ่มขึ้นอีก
ปัจจุบัน จังหวัดนครสวรรค์ มีครัวเรือนชาวมุสลิม จำนวน 240 ครัวเรือน ประชากรชาวมุสลิม จำนวน 1,200 คน อยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองนครสวรรค์ อำเภอพยุหะคีรี อำเภอชุม และอำเภอตาคลี ส่วนใหญ่เป็นเชื้อสายปาทาน ประกอบอาชีพต่าง ๆ เช่น ค้าขาย และธุรกิจต่าง ๆ ภาษาที่ใช้ในการติดต่อพูดคุยกับชาวมุสลิมด้วยกันใช้ภาษา “ปุสโต” (เป็นภาษาแถบตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศปากีสถาน) สวมใส่เสื้อผ้าเครื่องแต่งกายแบบสากลทั่วไป ยกเว้นผู้หญิงจะมีผ้าคลุมศีรษะและผู้ชายเวลาประกอบพิธีละหมาด อาหารที่รับประทานเป็นอาหารไทยมุสลิมทั่วไป และชาวมุสลิมทุกคนจะมีความศรัทธาในพระอัลเลาะห์องค์เดียว โดยจะแสดงออกถึงความเคารพต่อพระผู้เป็นเจ้าด้วยการปฏิบัติตามหลักปฏิบัติ ๕ ประการ เหมือนชาวมุสลิมทั่วไป