ขนมไทยพื้นบ้าน : แกงบวดฟักทอง สูตร นางกวย อัตจักร์
ความเป็นมา/ ความเชื่อ แกงบวดฟักทอง เป็นขนมไทยพื้นบ้านของชาวไทย ที่บ่งบอกถึงความเป็นไทย คนส่วนมากโดยเฉพาะชาวอีสานจะรู้จักเป็นอย่างดี เนื่องจากชาวบ้านส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกรรม ปลูกผักผลไม้ ไว้รับประทานเอง อีกทั้งห่างไกลตลาด จึงนำอาหารที่มีอยู่ในท้องถิ่นมาทำขนมรับประทานเองภายในครอบครัว หรือนำไปทำบุญที่วัด และใช้รับรองแขก ปัจจุบันหลายครอบครัวเริ่มเลิกราห่างหายกันไปเนื่องจากเห็นว่ามีขั้นตอนที่ยุ่งยาก เสียเวลา และสามารถซื้อหาได้ง่ายตามตลาดทั่ว ๆ แต่ก็ยังคงเหลือเป็นบางครอบครัวที่สานต่อ รักษาสืบทอดการทำขนมแกงบวดฟักทอง คงไว้ให้ลูกหลานได้เรียนรู้ อนุรักษ์สืบสาน ต่อไป
เครื่องปรุง + ส่วนผสม
1.ฟักทองหั่นเป็นชิ้นพอดีคำ 500 กรัม
2.น้ำเปล่า 2 1/2 ถ้วยตวง
3.หัวกะทิ 1 ถ้วยตวง
4.หางกะทิ 1 1/2 ถ้วยตวง
6.น้ำตาลทรายหรือน้ำตาลปี๊บ 1/2 ถ้วย
7.เกลือป่น 1/2 ช้อนชา
ขั้นตอน/วิธีทำ
1. ผ่าฟักทอง คว้านเมล็ดและไส้ออก ปลอกเปลือก แล้วนำไปล้างให้และหั่นฟักทองเป็นชิ้นพอดีคำ เพื่อความสวยงาม
2. นำปูนขาวหรือปูนแดงมาละลายน้ำให้หมด ปล่อยทิ้งไว้จนปูนตกตะกอน แล้วนำน้ำส่วนบนซึ่งก็คือน้ำปูนใสมาใช้
3. นำฟักทองไปแช่น้ำปูนใสทิ้งไว้ประมาณ 15-20 นาที จากนั้นจึงเทน้ำปูนใสทิ้ง นำไปล้างน้ำเปล่าและพักไว้ให้สะเด็ดน้ำ
4. นำหางกะทิใส่หม้อ ตั้งไฟปานกลาง รอจนเดือด ใส่น้ำตาลปี๊บและเกลือป่นลงไป คนให้ละลาย ชิมรสหวานมันออกเค็มนิด ๆ หรือชิมให้ได้รสชาติตามใจชอบ
5. ใส่ฟักทองลงไปในน้ำหม้อกะทิที่ปรุงรสชาติแล้ว รอให้ฟักทองสุก ต่อจากนั้นใส่หัวกะทิลงไป ลดไฟให้อ่อนลง (ไม่ให้กะทิแตกมัน) พอเริ่มเดือดอีกครั้งก็ปิดไฟ เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
6. ตักใส่ถ้วยนำไปรับประทานหรือยกเสิร์ฟขณะร้อน ๆ หรือรอให้เย็นแล้วเติมน้ำแข็งเล็กน้อย รับประทานแล้วชื่นใจ
เทคนิค (เคล็ดลับ)
1. ขณะนำหางกะทิต้มควรไฟขนาดปานกลาง
2. คนน้ำตาลให้เข้ากับหัวกะทิไปก่อนแล้วค่อยเทลงในหม้อต้มหางกะทิ แล้วใช้ไฟอ่อน ๆ ไม่ให้กะทิแตกมันจะทำให้รสชาติหวาน มัน และดูสวยงาม น่ารับประทาน