สถานที่ตั้งวัดกะสังข์ ตั้งอยู่เลขที่ ๕๔ หมู่ที่ ๑ ตำบลธนู อำเภออุทัย จังหวัดพระนครศรีอยุธยา

ประวัติการสร้างวัดกะสังข์ ตั้งแต่ พ.ศ.๒๓๒๕ และได้รับพระราชทานเขตวิสุงคามสีมาปี

พ.ศ.๒๓๕๑ พื้นที่ตั้งวัดเป็นที่ราบลุ่ม แวดล้อมด้วยคลองและถนน ขนาดของสิ่งก่อสร้างและ

เสนาสนะของวัด ดังนี้

๑.พระอุโบสถ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๑๕ กว้าง ๑๑.๓๐ เมตร ยาว ๒๑.๕๐ เมตร โครงสร้าง

ก่ออิฐถือปูน เครื่องบนเป็นไม้สัก เป็นพระอุโบสถมี่มีรูปทรงสวยงามในสมัยอยุธยาตอนปลาย

พร้อมกำแพงแก้วโดยรอบที่สวยงาม

๒.ซุ้มประตูกำแพงโบสถ์

๓.ศาลาการเปรียญ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๘๙ กว้าง ๑๐.๖๕ เมตร ยาว ๑๗.๕๐ เมตร โครงสร้าง

เป็นอาคารไม้

๔.หอสวดมนต์ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.๒๔๙๐ กว้าง ๕.๗๙ เมตร ยาว ๘.๖๕ เมตร โครงสร้างเป็น

อาคารไม้

๕.กุฎิสงฆ์ จำนวน ๙ หลัง สร้างเรียงกันเป็นหมู่อยู่โดยรอบหอสวดมนต์ โครงสร้างเป็นอาคารไม้

๖.หอระฆัง มี ๒ หอ สร้างด้วยคอนกรีต

๗.เมรุ ขนาดกวาง ๑๕ เมตร ยาว ๒๐ เมตร สร้างด้วยคอนกรีตยกพ้นสูงเป็นระบบเตาเผาด้วย

น้ำมันดีเซล

ตำนานวัดกะสังข์

วัดกะสังข์เดิมเรียกว่า “วัดนางสั่ง”ต่อมาจึงเพี้ยนไปเป็นวัดกะสังข์ ซึ่งมี “หลวงพ่อฉาย”

อดีตเจ้าอาวาสวัดกะสังข์ ต่อมาได้สถาปนาเป็นเจ้าคณะญาณไตรโลก เล่าให้สมเด็จพระมหา

ธีราจารย์ว่า สมัยเมื่อกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี มีหมู่บ้านด้านทิศตะวันออกของเมืองหมู่บ้านหนึ่ง

ลูกสาวชาวบ้านนี้มักมีผิวพรรณดี มีความสวยงาม ความเรื่องนี้ทราบไปถึงพระกรรณของพระเจ้า

แผ่นดิน เมื่อพระเจ้าแผ่นดินทรงทราบแล้วต่อมามีพระวโรกาสก็เสด็จประพาสหมู่บ้านแห่งนี้

พร้อมด้วยเสนาข้าราชบริพาร เมื่อประชาชนทราบว่าพระเจ้าแผ่นดินเสด็จมาเยี่ยมเยียนพวกตน

ต่างชักชวนกันมาเฝ้ารับเสด็จ เมื่อพระเจ้าแผ่นดินทอดพระเนตรดูผู้ที่มาเฝ้ารับเสด็จ ทรงพอ

พระทัยลูกสาวชาวหมู่บ้านนั้น ทรงเอ่ยพระโอษฐ์รับอุปถัมภ์ค้ำชูสตรีผู้นั้น บิดา มารดาของหญิง

ผู้นั้นจึงได้ปรึกษากันคิดว่าเป็นบุญกุศลของตนและลูกสาวแล้ว จึงยกลูกสาวถวายแด่พระเจ้า

แผ่นดิน

รายนามเจ้าอาวาส

๑.พระอาจารย์โพธิ์ เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๓๕๔-๒๓๖๔

๒.พระอาจารย์นาค เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๓๖๔-๒๔๐๑

๓.พระอาจารย์เทียน เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๔๐๑-๒๔๓๑

๔.พระอาจารย์สุดใจ เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๔๓๑-๒๔๕๙

๕.พระอาจารย์เชื่อม เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๔๕๙-๒๔๖๔

๖.พระอาจารย์ฉวย เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๔๖๔-๒๔๘๐

๗.พระมหาอ่อน เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๔๘๐-๒๔๘๕

๘.พระอาจารย์จีน เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๔๘๕-๒๔๙๕

๙.พระอาจารย์ละมูล เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๔๙๕-๒๔๙๖

๑๐.พระครูพิศิษฎ์นวการ เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๔๙๖-๒๕๓๕

๑๑.พระปลัดชะโอด นาถธัมโม เป็นเจ้าอาวาสระหว่าง พ.ศ.๒๕๓๕-ปัจจุบัน

วัดกะสังข์นับเป็นวัดที่มีความสำคัญยิ่ง และเป็นศูนย์รวมจิตใจของประชาชน สมควรเป็นสถานที่

ควรได้รับการอนุรักษ์รักษา ทำนุบำรุง เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้ในเรื่องเกี่ยวกับศาสนาศิลปะ

และวัฒนธรรม