แหล่งเรียนรู้ภูมิปัญญาการรักษาพิษงูด้วยสมุนไพร
นายเอี๊ยะ สายกระสุน ปัจจุบันอยู่บ้านเลขที่ ๖๑ หมู่ ๒ บ้านท่าสว่าง ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ จบการศึกษาชั้นประถมปีที่ ๔ ที่โรงเรียน บ้านรุน มีบุตร ๔ คน เป็นชาย ๑ คน หญิง ๓ คน ประกอบอาชีพรับจ้าง
นายเอี๊ยะ เป็นบุคคลต้นแบบคนหนึ่งของสังคมที่ใช้วิกฤตให้เป็นโอกาส เพราะหลังจากน้องสาวได้เสียชีวิตเพระถูกงูพิษกัด นายเอี๊ยะ ก็เพียรพยายามที่จะหายามารักษาคนที่ถูกงูพิษกัด ความพยายามเป็นบ่อเกิดของความสำเร็จยังคงเป็นสัจธรรม หลังจากสืบเสาะหายารักษาพิษงูมาเป็นเวลาหลายปีในที่สุดนายเอี๊ยะก็ได้มีโอกาสเรียนรู้การนำสมุนไพรพื้นบ้านมารักษาพิษงูจากญาติคนหนึ่งซึ่งอยู่ในจังหวัดพิจิตร(นายขวน เชียงคำ มีศักดิ์เป็นลุงเขย : สันนิษฐานว่าได้ตำรายามาจากประเทศกัมพูชา)
จากพันธุ์ไม้พื้นบ้านที่มีชื่อว่าโลดทะนงแดง (พระเจ้าปลูกหลง) ซึ่งหาได้ทั่วไปในป่าตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ บรรพบุรุษของชุมชนได้รังสรรค์ขึ้นมาให้เป็นยาสมุนไพรรักษาพิษงูและพิษจากสัตว์ทุกชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนยาแผนปัจจุบันไม่สามารถที่จะมาเทียบชั้นได้ ประสิทธิภาพของสมุนไพรชนิดนี้แย่งชีวิตของผู้ถูกงูพิษกัดมาจากยมบาลให้กลับมาชีวิตในโลกมนุษย์อีกครั้งหนึ่งคนแล้วคนเล่านับครั้งไม่ถ้วน
องค์ประกอบของสมุนไพรักษาพิษงูไม่ได้ซับซ้อนอะไรมากมาย มีเพียงแต่รากของพืชที่มีชื่อว่า โลดทะนงแดง หรือพระเจ้าปลูกหลง หมาก และน้ำสะอาด ก็เพียงพอที่จะทำให้ผู้ที่ถูกงูพิษกัดกลับมามีชีวิตอย่างปกติสุขได้อีกครั้งหนึ่ง
กรรมวิธีในการรักษาก็ไม่ได้ยุ่งยาก เพียงแต่ฝนรากโลดทะนงแดงผสมกับหมากแห้งเพียงเล็กน้อยผสมให้เข้ากันในน้ำสะอาดประมาณ ๑๐ ซีซี. ให้ผู้ถูกงูพิษกัดดื่มเพียงครั้งเดียวสำหรับงูพิษโดยทั่วไป(แต่สำหรับงูจงอางให้ดื่ม ๒ ครั้ง โดยให้ดื่มวันละ ๑ ครั้ง) พิษงูที่อยู่ในร่างกายของคนก็จะถูกถอนออกไปโดยสมุนไพรมหัศจรรย์นี้เพียง ๓๐ นาที นอกจากนี้ถ้าโดนพิษจากสัตว์ประเภทแมลง ก็ไม่ต้องดื่มเพียงแต่ใช้ยาสมุนไพรทาบริเวณที่ถูกกัด หรือถูกต่อย พิษร้ายจากแมลงก็จะถูกถอนออกไปจากร่างกายในเร็วพลัน
นับเป็นโชคดีของชุมชนตำบลบักได ที่มีปราชญ์ชาวบ้านชื่อ “เอี๊ยะ สายกระสุน” ผู้ที่พยายามเรียนรู้จากภูมิปัญญาของบรรพบุรุษจนสามารถรักษาพิษงูทุกชนิดจากสมุนไพรพื้นบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพ จนสามารถกล่าวได้ว่าไม่มีเภสัชกรแผนปัจจุบันคนไหนสามารถผลิตยารักษาพิษงูได้เทียบเท่ากับหมอสมุนไพรพื้นบ้าน ที่ชื่อนายเอี๊ยะ สายกระสุน คนนี้ได้เลย
ด้วยประสิทธิภาพของสมุนไพรที่เล่าลือกันปากต่อปาก ปัจจุบันนายเอี๊ยะ สายกระสุน เป็นแพทย์แผนไทยที่มีใบประกอบโรคศิลป์ ทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับแพทย์แผนปัจจุบันในโรงพยาบาลแปดสิบพรรษาเฉลิมพระเกียรติพนมดงรัก และโรงพยาบาลกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งสร้างความภาคภูมิใจให้แก่คนในตำบลบักได ในการเป็นแพทย์ทางเลือกที่มีประสิทธิภาพสูงให้กับชุมชนและประเทศไทยเป็นอย่างยิ่ง