ไหว้พระ 9 วัดอำเภออู่ทอง

1.วัดเขาถ้ำเสือแดนดินถิ่นธรรมะ “ศีล” สมาธิ ปัญญา จิต กายใจ ให้เป็นปัจจุบัน”

มหามงคลในพระธรรมคำสอนพุทธองค์ วัดเขาถ้ำเสือ ขุนเขา พุทธสถานสถิตประดิษฐานพระพุทธรูปโบราณตัวแทนแห่งพุทธองค์และสลักลอยนูนเด่นเป็นสง่าผ่านลมฝนมานานหลายนับพันปี รอคอยพุทธศาสนิกชน ผู้รู้ ผู้ตื่น ผู้เบิกบาน ได้ไปสัมผัสอำนวยอวยชัยขอพรพึ่งบารมี ณ จุดชมวิว ชั้นสรวงสวรรค์แห่งขุนเขา มีสวนป่าจันทร์ขาว ป่าสุพรรณนิการ์เหลืองอร่าม ส่งเสริมหอมอบอวนทั่วขุนเขามสวนป่าหินธรรมชาติสลับซับซ้อนล้วนงามตา ถือเป็นเครื่องพุทธบูชาแด่พุทธองค์ ที่สถิตสถาพร ณ สรวงสวรรค์ชั้นแห่งขุนเขานี้ตลอดกาล

พระพุทธคุณแห่งพุทธสถานแห่งนี้เป็นแดนดินถิ่นกำเนิดกรุพระเครื่องถ้ำเสือที่เก่าแก่ที่มีชื่อเสียงที่สุดของประเทศไทย ในตำนานพระฤาษี “สุวรรณภูมิ” เป็นผู้สร้าง (ติดต่อสอบถาม โทร.089-0094184,081-8377364)

2.วัดเขาทำเทียมแดนดินถิ่นธรรมะ “เทียมสวรรค์ ปุษยคีรี ขุนเขาดอกไม้”

สรวงสวรรค์แดนมหามงคลในพระธรรมคำสอนอันบริสุทธิ์ของพุทธสถานวัดเขาทำเทียม ขุนเขาแห่งนี้ที่พุทธศาสนิกชาวบ้านย่านนี้เรียกขานกันว่า วัดเขาเทียมสวรรค์ หากเทียบกับสมัยพุทธกาลก็เฉกเช่นเดียวกับปุษยคีรีสังฆาราม ในสมัยพุทธกาลขุนเขาแห่งนี้มีเพิงผาหน้าถ้ำเป็นที่พำนักของสาวกขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า เส้นทางรอยบุญพระโสณเถระ และพระอุตตระเถระขณะที่เผยแพร่พระธรรมคำสอนอันบริสุทธิ์ของพุทธองค์ ร่องรอยบุญมหากุศลของพุทธสถานแห่งนี้มีอุโบสถ ใบเสมาหินเก่าแก่โบราณเล่าขานตำนานปฐมอุโบสถในสยามประเทศ มีสวนป่าลีลาวดีนานาพันธุ์ สุพรรณนิการ์ เหลืองอร่าม เป็นเครื่องบูชาอยู่คู่พุทธสถานแห่งนี้ (ติดต่อสอบถาม โทร.086-6263511,035-551274,086-6272956)

3.วัดเขาพระศรีสรรเพชญารามแดนดินถิ่นธรรมะ “เมืองอู่ทองศรีทวารวดี”

สรวงสวรรค์แห่งพระธรรมคำสอนของพุทธองค์ ณ ขุนเขา วัดเขาพระศรีสรรเพชญาราม แดนดิ่นดินพุทธคุณบารมีแห่งหลวงพ่อสังฆ์ เผยแผ่บารมีธรรม ณ เพิงผาหน้าถ้ำบนขอดขุนมานานนับพันปี ด้วยรัศมีแห่งธรรมะอันบริสุทธิ์ได้คุ้มครองปกปักษ์รักษาพุทธศาสนิกชน ทั่วหล้า ได้น้อมนำจิตขอพึ่งพระบารมีสรวงสวรรค์แห่งขุนเขานี้ สมมุติแทนองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าด้วยรอยพระบาทจำลองครอบด้วยมณฑป ช่างวิจิตรงดงามราวกับหมู่เหล่าทวยเทวดา นางฟ้าบรรจงสร้างสวรรค์ เพื่อเป็นพุทธบูชาด้วยความเลื่อมใสศรัทธาแห่งธรรมะมีองค์พระเจดีย์โบราณสถานสมัยทวารวดีเป็นพุทธสถาน เป็นเครื่องพุทธบูชา เป็นมหามงคลยิ่งใหญ่ไพศาลสำหรับพุทธศาสนิกชนได้ศรัทธากราบไหว้ขอพรแดนดินถิ่นธรรมะอันบริสุทธิ์แห่งนี้ (ติดต่อสอบถามโทร.084-7272505,084-1406458)

4.วัดเขากำแพงแดนดินถิ่นธรรมะ “พระสุเมรุปล่องภูเขาไฟ ที่เผาไหม้ดับกิเลส ด้วยแสงแห่งธรรม”

สรวงสวรรค์แห่งพระธรรมคำสอนของพุทธองค์ ณ ขุนเขาวัดเขากำแพงแดนดินถิ่นยอดพระพระเมรุปล่องภูเขาไฟ ที่เผาไหม้กิเลส ดับทุกข์ ในทรวงด้วยปริศนาธรรมคำสอนของพระพุทธองค์บรรจงสร้างองค์พระสัมมา สัมพุทธเจ้าด้วยหินหยกล้ำค่างามตา ด้วยแสงความเลื่อมใสในพุทธบารมีให้พุทธศาสนิกชนได้ขอพึ่งพรพระบารมีแห่งธรรม ทัศนาทิวทัศน์สัมผัส กลิ่นอายอารยะธรรมล้ำยุคก่อกำเนิดแผ่นดินโลกด้วยธรรมะ

แดนสวรรค์ชั้นนี้มีสระน้ำพุทธมนต์ สวนป่านานาพันธุ์ ไม้โบราณประจำถิ่นฐานแบ่งบาน ชูช่อออกดอกส่งกลิ่นอบอวล เป็นเครื่องบูชา อยู่ประจำขุนเขาแห่งนี้ (ติดตามสอบถามโทร.089-9120893,089-8086261)

5.วัดเขาดีสลักแดนดินถิ่นธรรมะ “เบญจอารามห้าขุนเขาทวารวดี”

สรวงสวรรค์แห่งพระธรรมคำสอนของพุทธองค์ ณ ขุนเขาวัดเขาดีสลักแดนดินถิ่นพระพุทธบาทจำลองนูนล้ำค่าทางจิตใจ สัมผัสปริศนาธรรม อันยิ่งใหญ่ขอพรพระบารมีพระบรมสารีริกธาตุ กรุพระถ้ำเสือ นมัสการ องค์มหาเจดีย์ทวารวดีเมืองอู่ทอง สถิตสภาพรออยู่บนยอดขุนเขา บารมี แห่งธรรมอายุนับพันปี สัมผัสแดนดินถิ่นกำเนินพุทธศาสนาขอพรพึ่งบารมีแห่งทานบูชาด้วยสระน้ำศักดิ์สิทธิ์ ชมทิวทัศน์งามตามองเห็นทั่วหล้าดังปริศนาแห่งแสงธรรมของพุทธองค์ คุ้มครองผู้ปฏิบัติดี ปฏิบัติชอบตามคำสอนพุทธองค์ เก็บภาพความทรงจำไปช่วยกันเผยแพร่พระธรรมคำสอนอันบริสุทธิ์ขององค์ ให้เป็นทานบารมี ในการเดินทางมากราบไหว้พระออมบุญห้าขุนเขาทวารวดี เมืองศรีอู่ทอง ให้เจริญยิ่งสืบไปตราบนานเท่านาน (ติดต่อสอบถาม โทร.081-4566764,0127634)

6.วัดโคกสำโรงมีพื้นที่จำนวน 20 ไร่ 13 ตารางวา อุโบสถวัดโคกสำโรงมีขนาดกว้าง 5.5 เมตร ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2516 ทำพิธีผูกพันธสีมาเมื่อวันที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2518 การก่อสร้างและดำเนินงานต่าง ๆ ทั้งหมดสำเร็จลุล่วงโดยพระครูสุวรรณศาสนกิจ วัดโคกสำโรงมีบริเวณที่ดินกว้างยาวมากและทางด้านทิศตะวันออกของศาลาการเปรียญหลังใหม่มีเจดีย์เก่าแก่ ตามที่เล่าสืบกันมาเข้าใจตามหลักฐานตามสภาพความเก่าแก่สันนิษฐานว่าคงสร้างในสมัยตอนปลายกรุงศรีอยุธยา มีความสูง 9 เมตร ฐานเจดีย์กว้าง 3 เมตร ต่อมาท่านพระครูสุวรรณศาสนกิจได้สร้างเจดีย์ขึ้นคร่อมเจดีย์เก่าเพื่อให้เข้าไปชมภายในเจดีย์เก่าได้ ทั้งเป็นการอนุรักษ์ของเก่ามิให้พังทลายเสียหายมากกว่าเดิม พร้อมทั้งเป็นประวัติศาสตร์เพื่อให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาต่อไป

7.วัดโภคาราม (วัดดอนคา)วัดโภคารามกำหนดขึ้นมา พร้อมกับการตั้งหมู่บ้าน สันนิษฐานว่า น่าจะมีอายุเก่าแก่ประมาณ 200 ปี วัดโภคาราม เดิม วันดอนคา ในปี พ.ศ. 2471 หลวงพ่อเหมือน พร้อมด้วยคณะศิษย์ยานุศิษย์ ชาวบ้านวัดดอนคา ได้นำเกวียนไปอันเชิญพระพุทธรูปองค์ใหญ่ที่สุด หัวตาหนู อยู่เหนือวัดตีนเป็ด มาประดิษฐานที่เหนืออุโบสถ วัดโภคาราม ชาวบ้านเรียกขานกันว่า “หลวงพ่อพระใหญ่” เนื่องจากในสมัยพระพุทธรูปองค์นี้มีขนาดใหญ่ที่สุด ในเขตเหมือนอำเภออู่ทองขึ้นมา หลวงพ่อพระใหญ่เป็นพระพุทธรูปที่มีบารมีแก่กล้า เป็นที่เลื่อมใสศรัทธาแก่บุคคลทั้งหลาย

8.วัดโพธารามตั้งอยู่ในเขตหมู่ที่ 6ตำบลจรเข้สามพัน เป็นวัดเก่าแก่มาแต่โบราณ ยังหาหลักฐานไม่ได้ว่าสร้างแต่เมื่อใด แต่เดิมมีพระอุโบสถหลังเก่าพวกชาวมอญได้สร้างไว้และพวกชาวมอญได้อพยพไปอยู่ถิ่นอื่นและคนไทยย้ายเข้ามาจับจองที่ดินปลูกบ้านเรือนและที่ไร่ ที่นาปี พ.ศ. 2496-2497 ได้มีการจัดสร้างพระอุโบสถใหม่ใหญ่กว่าเดิมจนแล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2510 มีขนาดยาว 13 วา 2 ศอก และในอดีต พระครูเปี้ยน หรือคนทั่วไปชอบเรียกว่า “หลวงพ่อเปี้ยน” เคยเป็นเจ้าอาวาสวัดโพธาราม ซึ่งเป็นที่เคารพนับถือของคนทั่วไปทั้งอำเภอ ซึ่งภายหลังจากท่านมรณภาพชาวบ้านก็มีความศรัทธาและเชื่อว่าท่านมีอิทธิฤทธิ์ที่จะดลบันดาลและช่วยเหลือให้บรรเทาความเดือนร้อนให้โดยในงานประจำปีของวัดจะมีประชาชนหลั่งไหลกันไปเคารพกราบไหว้และปิดทองหล่อของท่านอย่างล้นหลามทุกปี

9.วัดนันทวันตั้งอยู่ ณ หมู่บ้านสุวรรณรัตน์ เลขที่ 269 หมู่ที่ 4 ถนนมาลัยแมน ตำบลสระพังลาน อำเภออู่ทอง จังหวัดสุพรรณบุรี สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีเนื้อที่วัดทั้งหมด 52 ไร่ 2 งาน 89 ตารางวา ในปี พ.ศ. 2509 และได้จัดทำเรื่องขออนุญาตเป็นวัดที่ถูกต้อง เมื่อวันที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2513 โดยใช้ชื่อว่า “วัดนันทวัน” และได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2518 และได้สร้างศาลาการเปรียญหลังใหม่ กุฏิทรงไทยหอระฆังหลังใหม่ จนท่านมรณภาพเมื่อวันที่ 28 ธันวาคม 2536 ด้วยโรคมะเร็ง ต่อมาพระครูสุวรรณนันทวัฒน์ ได้ขึ้นเป็นเจ้าอาวาสท่านดำเนินการก่อสร้างพระอุโบสถจนสำเร็จลุล่วง นอกจากนั้นท่านยังพัฒนาด้านการสร้างห้องน้ำ กฏิทรงไทย 2 ชั้น หอสวดมนต์จนเสร็จแล้ว จึงกำหนดงานผูกพัทธสีมาปิดทองฝังลูกนิมิต เมื่อวันที่ 4-13 กุมภาพันธ์ 2540