ไหว้พระ 9 วัดอำเภอบางปลาม้า

1.วัดป่าพฤกษ์ตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลบ้านแหลม อำเภอบางปลาม้า ริมฝั่งตะวันตกของแม่น้ำท่าจีน ห่างจากที่ทำการอำเภอบางปลาม้า 6 กิโลเมตร ที่หน้าวัดป่าพฤกษ์มีปลาธรรมชาติที่ทางวัดสงวนพันธุ์ไว้ เป็นวัดเก่าแก่โบราณไม่ปรากฏหลักฐานว่าสร้างมาตั้งแต่สมัยใด มีพระพุทธรูปปางมารวิชัยศิลปะอู่ทอง เนื้อศิลาทรายขาว หน้าตัก 46 นิ้ว เป็นพระประธานประจำวิหารแก้ว พระพุทธรูปปางมารวิชัย ศิลปะสมัยสุโขทัย เนื้อศิลาทรายขาว หน้าตัก 59 นิ้ว ประดิษฐานเป็นพระประธานประจำอุโบสถและระฆังสัมฤทธิ์สร้างในสมัยอยุธยา ราวปี พ.ศ. 2240 (อายุครบ 300 ปี เมื่อปี พ.ศ. 2540

2.วัดบางเลนสร้างขึ้นในสมัยรัฐกาลที่ 4 โดยเสด็จผ่านมาทางชลมารค (สายสุพรรณฯ-งิ้วราย) เมื่อถึงบริเวณคุ้งน้ำมีพื้นดินโค้งเป็นแหลมยื่นออกมาทรงทอดพระเนตรเห็นว่าทำเลดีเหมาะที่จะสร้างวัด พระองค์จึงเสด็จขึ้นฝั่งพบเห็นแม่ของ หลวงปู่ไข่ ธัมรังสี ซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน และมี่พระราชดำรัสให้สร้างวัดขึ้น แล้วได้ทรงพระราชนามวัดน่า “วัดแก้ววงเดือน” ต่อมาประชาชนมักเรียกวัดนี้ว่า “วัดบางเลน”

วัดบางเลน เป็นวัดที่มีอุโบสถสวยงาม และมีพระที่เป็นที่เคารพนับถือของชาวบ้าน อยู่ห่างจากจังหวัดประมาณ 24 กิโลเมตร ภายในบริเวณวัดมีค้างคาวแม่ไก่อยู่เป็นจำนวนมาก อาศัยเกาะอยู่ตามต้นไม้

3.วัดดาวเดิมเป็นวัดร้างอยู่ประมาณ 120 ปี มีโคกใหญ่ ซึ่งชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า “โคกวัดดาว” สันนิษฐานว่าเป็นวิหารร้างเก่า ดูจากรอยกำแพงอิฐที่พบเห็นและมีพระพุทธรูปอยู่ มีเนื้อที่ 2 ไร่เศษ ต่อมาเมื่อปี พ.ศ. 2466 ชาวบ้านร่วมกันสร้าง และได้นิมนต์พระภิกษุอุ่น จากวัดสังโฆ มาเป็นอาจารย์องค์แรก และตั้งชื่อเดิมว่า “วัดดาว” นอกจากนี้ยังพบหลวงพ่อแสงสว่างฟ้า ลักษณะเดิมท่านเป็นท่อน ๆ มีด้วยกัน 3 ท่อน คือท่านช่วงเขา ท่อนตัว และท่อนศีรษะ เป็นเนื้อหินทราย ปางมารวิชัยรูปแบบศิลปกรรมสมัยอยุธยาตอนต้น ในราวพุทธศตวรรษที่ 20 (อายุกว่า 500 ปี) ต่อมา พ.ศ.2478 ได้มีผู้จิตศรัทธาอันเชิญชิ้นส่วนต่าง ๆ ของท่านมาประกอบเป็นองค์ประดิษฐไว้ที่หน้าอุโบสถ และฉาบปูนนั้น ครอบองค์เดิมไว้

4.วัดสวนหงส์ตั้งอยู่เลขที่ 6 หมู่ที่ 8 ตำบลบางปลาม้า วัดสวนหงส์ได้เริ่มก่อตั้งเมื่อประมาณ พ.ศ.2379 ได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา เมื่อ พ.ศ. 2408 เล่าขานว่า มีเศรษฐีโคกโครามสองสามีภรรยา ชื่อนายสวนกับนางหงส์ มีศรัทธาสร้างวัดขึ้นมา แล้วเรียกชานชื่อวัดว่าวัดสวนหงส์ ซึ่งมีเรื่องราวของหลวงพ่อปลื้ม เจ้าอาวาสวัดสวนหงส์ ชาวบ้านกล่าวขานกันมาตลอด ด้วยความเป็นพระครูที่มีลูกศิษย์มากชาวบ้านจึงเคารพยำเกรง มีเรื่องเล่ากันว่า คนสุพรรณที่เคยไปกราบ หลวงพ่อคูณ แห่งวัดบ้านไร่ จังหวัดนครราชสีมา ยังต้องถูกสั่งสอนว่า “มึงไม่ต้องมาถึงกูหรอก ไปกราบหลวงพ่อปลื้ม อาจารย์กูที่วัดสวนหงส์ก็พอแล้ว”

5.วัดสวนป่าปฏิบัติธรรม (วัดกลาง)เป็นนามที่ตั้งขึ้นใหม่เมื่อราวปี พ.ศ.2441 ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำท่าจีน ด้านทิศตะวันออก มีเนื้อที่ 32 ไร่เศษ เดิมหน้าวัดอยู่ทางฝั่งแม่น้ำท่าจีน ปัจจุบันถนนสายสุพรรณบุรี-บางบัวทอง-ลาดหลุดแก้ว ตัดผ่านด้านหลังวัด จึงทำให้ทิศทางการตั้งวัดเปลี่ยนไป เป็นวัดที่มีความรุ่งเรืองวัดหนึ่งในสมัยกรุงศรีอยุธยา คงทิ้งร่อยรอยแห่งความเจริญในอดีตไว้เช่น มีพระพุทธรูปปรักหักพังทั้งองค์เล็ก องค์ใหญ่มากกมาย ตั้งอยู่บริเวณโคกโบสถ์

6.วัดสังโฆสิตารามตั้งอยู่หมู่ที่ 5 ตำบลวัดดาว (เดิมตำบลบ้านแหลม) อำเภอบางปลาม้า เริ่มตั้งวัดสังโฆสิตาราม พ.ศ.2428 ถึง พ.ศ.2554 รวมอายุของวัดสังโฆสิตารามได้ 127 ปี เริ่มต้นสมัยรัชกาลที่ 5 ที่ตั้งวัดมีทั้งหมด 18 ไร่ 2 งาน 60 ตารางวา ที่ธรณีสงฆ์ 30 ไร่ ปัจจุบันมีโบสถ์ 3 หลัง มีความเก่าแก่โบราณ และหลงเหลือลวดลายที่น่าศึกษาด้านวัฒนธรรมของพระพุทธศาสนา ไว้ให้คนรุ่นหลัง

7.วัดน้อยในอดีตมีเกจิอาจารย์ที่รู้จักกันทั่วประเทศ คือหลวงพ่อเนียม เป็นอดีตเจ้าอาวาสวัดน้อยองค์แรก ท่านเป็นผู้สร้างพระพุทธบาทจำลององค์นี้ไว้ เชื่อกันมาโดยตลอดว่าท่านมีน้ำมนต์อันศักดิ์สิทธิ์มีพระเครื่องหลายพิมพ์ ที่ท่านปลุกเสกเอง อย่างทรงคุณค่ายิ่ง มีญาณอันวิเศษรู้อะไรล่วงหน้า และคุณลักษณะพิเศษอีกมากมาย

8.วัดอานตั้งอยู่หมู่ที่ 4 ตำบลบางใหญ่ อำเภอบางปลาม้า มีหลวงพ่อจันทรังษี เป็นที่สักการะของประชาชนทั่วไปที่มาขอพร ขอโชคลาภ และขอให้ประสบความสำเร็จสมประสงค์แล้วแต่จะขอ ก็จะนิยมบนด้วยสิ่งที่นับว่าหลวงพ่อชอบ ซึ่งได้สอบถามถือต่อกันมาว่าหลวงพ่อชอบลิเก ชอบขนมจีน ไข่ต้ม บริเวณวัดมีสระใหญ่ 2 สระ ขนาบวัดบรรยากาศร่มเย็น หลวงพ่อวัดอานมีความศักดิ์สิทธิ์มาก ไม่ว่าจะเป็นการเห็นงูเลื้อยผ่านหน้าแล้วหายไปไร้ร่องรอยดวงไฟลอยขวางหน้าไม่ให้คนแปลกหน้าเข้าหมู่บ้าน เป็นต้น

9.วัดองครักษ์วัดนี้เริ่มสร้างเมื่อ พ.ศ. 2400 (ปีมะเส็ง) เดิมชื่อ “วัดโคก” (โคกอีแร้ง) สร้างขึ้นตั้งแต่เมื่อใดไม่ปรากฏหลักฐานแน่ชัด ประมาณว่าสร้างในสมัยรัตนโกสินทร์ตอนต้น (150-200ปี) เปลี่ยนชื่อเป็นวัดองครักษ์สมัยรัชกาลที่ 5 ใน พ.ศ. 2487 พระอาจารย์อรรถมาเป็นเจ้าอาวาส วัดองครักษ์ตั้งอยู่ ณ ลุ่มน้ำเจ้าพระยา “ริมคลองบางยี่หน” ซึ่งเป็นคลองที่แยกมาจากแม่น้ำท่าจีน ชาวบ้านตำบลองครักษ์และประชาชนทั่วไป นับถือ พระครูอุดมโชติวัฒน์ (อรรถ อุตตมโชโต) เป็นอย่างมาก ทุกวันนี้พระเครื่องของพระครูอุดมโชติวัฒน์ จะมีผู้ต้องการไว้สักการะเป็นอย่างมาก ผู้ใดครอบครองก็จะความภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่ง