ใบหูเสือ

-หูเสือหรือเนียมหูเสือ มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Plectranthus amboinicus

ชื่อเรียกทางวิทยาศาสตร์ว่า Plectranthus amboinicus (Lour.) Spreng

ชื่อสามัญมีหลายชื่อดังนี้ Country Borage, Indian Borage ,Oreille, Oregano cuban oregano
นอกจากชื่อเหล่านี้แล้วแต่ละท้องถิ่นในไทยยังเรียกต่างๆกัน คือ เนียมหูเสือ(ภาคกลาง) หอมด่วนเสือ(ตาก) หอมด่วนหูเสือ(ภาคเหนือ) หูเสือ(ชัยภูมิ พิจิตร)

-ต้นหูเสือนี้เป็นไม้ล้มลุก มีอายุหลายปี ต้นและใบฉ่ำน้ำ ลำต้นเป็นสี่เหลี่ยม ใบเดียวติดตรงกันข้าม ทั้งต้นมีกลิ่นหอม ใบหนามีขนอ่อนๆ ก้านใบยาว เส้นใบลึกเป็นร่องๆ ดอกช่อ ออกที่ปลายกิ่ง ดอกขนาดเล็กสีม่วงอ่อน

-สารสำคัญที่พบในใบ เช่น น้ำมันหอมระเหย thymot, carvacrol, terpinene, cyperene เป็นต้น

นิยมปลูกไว้ที่บ้านเพื่อเก็บยอดอ่อนหรือใบอ่อนรับประทานเป็นผักสดจิ้มน้ำพริก ลาบ ก้อย ยำ เพื่อดับกลิ่นคาวและทำให้อาหารมีกลิ่นหอม นอกจากนำมาใช้เป็นเครื่องเทศประกอบอาหารไทย ฝรั่งแล้ว ยังมีสรรพคุณทางสมุนไพร
นำใบมาคั้นหยอดหู แก้ปวดหู แก้ฝีในหู แก้หูน้ำหนวก แก้หวัดคัดจมูก ขยี้ทาแก้แมลงป่องต่อย,ตะขาบกัดและแก้ปวดหัว ขยี้ใบปิดห้ามเลือดจากแผลสด หรือขยี้ทาท้องเด็กแก้ท้องอื่ด หรือนำไปผสมยานัตถ์ ให้มีกลิ่นหอม และกินกับหมากก็ได้ ลำต้นใช้ซักผ้า หรือสระผม

ฤทธิ์ทางเภสัชวิทยาพบว่าสามารถยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย ยับยั้งยีสต์ ยับยั้งเชื้อรา ฆ่าแมลง ยับยั้งการงอกของพืชอื่น ยับยั้งเอนไซม์ protease จากเชื้อ HIV และมีฤทธิ์ต้นอนุมูลอิสระ มีค่าดัชนีแอนติออกซิเดนท์ ๔.๗๔ มก. วิตามินซี ๑๐.๑๕ มก. เบต้าแคโรทีน ๒.๕๕ มก. แซนโทฟิลล์ ๔.๒๔ มก.

ปัจจุบันใบ หูเสือ สามารถใช้เป็นยาแก้เจ็บคอ แก้ทอนซิลอักเสบได้โดยทำง่ายๆคือ
๑. ใช้ใบแก่หรืออ่อนก็ได้ ๔-๕ ใบ ต้มกับน้ำตามต้องการจนเดือดแล้วดื่มขณะอุ่น เช้า-เย็น ก่อนหรือหลังอาหารก็ได้ ต้มดื่มเรื่อยๆจะช่วยให้อาการดีขึ้นและหายได้ หรือ

๒.ใช้ใบสด ๔-๕ ใบต้มกับหมู(ไม่มีมัน)สับละเอียดปริมาณตามชอบ ใส่เกลือป่นนิดหน่อย ต้มสุกแล้วกินทั้งน้ำและเนื้อ ๒ มื้อ เช้า - เย็น ทำกินเรื่อยๆอาการเจ็บคอและทอนซิลอักเสบจะหายได้