หัวปลี" เป็นดอกของต้นกล้วย ซึ่งจะเติบโตไปเป็นผลกล้วยต่อไป มีคนนิยมนำหัวปลีมาทำเป็นอาหารกันมาก และกินได้ทั้งแบบดิบหรือสุก แบบดิบก็มักจะมาในรูปของผักที่เป็นเครื่องเคียง เช่นในผัดไทยเป็นต้น รสชาติจะฝาดๆ แต่ถ้านำไปปรุงให้สุก ไม่ว่าจะเป็นต้มยำหัวปลี แกงไก่ใส่หัวปลี รสชาติก็จะนุ่ม มีรสหวานนิดๆ (คล้ายเนื้อไก่)
ส่วนประกอบไก่สับเป็นชิ้น 300 กรัมไข่ไก่ 2 ฟองปลีกล้วยน้ำว้า หรือกล้วยตานี ขนาดใหญ่ 1 หัวพริกขี้หนู หรือพริกชี้ฟ้าสด 12 เม็ดต้นหอมสด 5 ต้นหอมหัวแดง 3 หัวเกลือ 1 /2 ช้อนชาตะไคร้ 1 ต้นผักอีตู่ (ใบแมงลัก) 10 ยอดน้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะใบตองสำหรับห่อและไม้กลัดวิธีทำ- ล้างไก่ให้สะอาด หั่นพองาม , แกะหัวปลีจนถึงชั้นสีขาว ตัดขั้วทิ้งแล้วสับ-ซอย
-โขลกพริกสด-หอมหัวแดง-เกลือ ให้ละเอียด, ตะไคร้ตัดท่อน, นำไก่,หัวปลีที่เตรียมไว้ใส่อ่างผสมตักพริกที่โขลกลงเคล้าให้เข้ากันใส่ไข่และน้ำปลา เคล้าอีกที ,
-ฉีกใบตองเป็นแผ่นสี่เหลี่ยม 3 แผ่นวางสลับลายเช็ดให้สะอาด เอาตะไคร้ท่อน ใบแมงลักวางตรงกลาง ตักส่วนผสมวางทับ,รวบใบตองทำเหมือนขนมใส่ใส้แต่ใหญ่กว่า กลัดด้วยไม้กลัด
ถ้ามีส่วนผสมมากแบ่งทำเป็นห่อๆหลายห่อขนาดตามใจชอบ นำไปย่างเตาถ่านไฟอ่อนๆจะมีน้ำน้อยแต่หอมมาก หรือนึ่งในลังถึงจนสุกดีจะหอมอีกแบบและมีน้ำมากกว่าทานเป็นกับข้าวได้ทั้งข้าวเหนียวและข้าวเจ้า
-อาหารอีสานเรียกหมก ไม่ใช่ห่อหมกที่เป็นกระทงของภาคกลาง และไม่ใส่กระทิสามารถปรับใช้ได้กับ เนื้อหมู ไก่ นก กบ ปลาต่างๆตามแต่จะหาวัตถุดิบได้