พระนางศรี เป็นคนสัญชาติกล๋อม(ขอมแท้) ตามตำนานสันนิษฐานว่า เป็นราชธิดาของท้าวสุริยวรมันกับพระนางพิณสวัณคราวดี ตำแหน่งเป็นอุปราชครองพิมานมงคลในแคว้นโคตรบูร พระนางศรี เป็นผู้อำนวยการสร้างปราสาทสระกำแพง เป็นผู้รู้วิชานาฏศิลป์ ชำนาญการฟ้อน ทรงเป็นครูฝึกหัดการฟ้อนรำ ทรงเป็นประธานในพิธีถวายเทวาลัยปราสาทสระกำแพง พระนางศรีได้เข้าพิธีสรงสนานลงอาบน้ำสระผมในสระกำแพง แต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศสวยงาม มีดนตรีบรรเลง ทรงฟ้อนรำบวงสรวงเดี่ยวหน้าเทวรูปพระวิษณุ อัญเชิญเทพเจ้าผู้ทรงฤทธาศักดานุภาพมารับมอบเทวาลัยเป็นที่สิงสถิตย์ คนทั่วไปได้เห็นต่างชื่นชมในความงาม และถือเอาอาการสระผมของพระนางเป็นนิมิตตั้งชื่อบริเวณนั้นว่า "สระเกศ" (เกศ ตามพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน แปลว่า ผม)
ในสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก ได้ทรงโปรดเกล้าให้ตั้งเมืองใหม่ แยกจากเมืองขุขันธ์ มีฐานะเป็นเมืองหน้าด่านทางชายแดนเขมร พระราชทานชื่อเมืองว่า "เมืองศรีสะเกษ" เพื่อเป็นการให้เกียรติและเป็นอนุสรณ์แก่พระนางศรีสระผม
ข้อมูลจาก: เทศบาลเมืองศรีสะเกษ