ต้นไทรต้นนี้มีต้นดั้งเดิมเป็นต้นจามจุรี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ต้นก้ามปู ต่อมามีต้นไทรที่มีลักษณะเป็นไม้อิงอาศัยเติบโตบนต้นไม้อื่น แทงรากเข้าเนื้อเยื่อไม้ต้นก้ามปู และแทงรากลงลึกต่อในดิน พร้อมด้วยใช้ราก และลำต้นโอบรัดต้นก้ามปูเอาไว้ห่อหุ้มจนกลายเป็นต้นไทรที่มีขนาดใหญ่อายุกว่าร้อยปีในปัจจุบัน กอรปกับความเชื่อที่ว่าเจ้าพ่อปู่ดำที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพนับถือของหมู่บ้านอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว เมื่อมีต้นไทรมาอายุกว่า ๑๐๐ ปีต้นนี้ตั้งอยู่คู่กัน สองสิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นที่เคารพบูชาของหมู่บ้านและเป็นสถานที่สำคัญเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านวังยางถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่ ณ หมู่ ๑ บ้านวังยาง ตำบลวังยาง อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร
ตามประวัติหมู่บ้านกล่าวว่า ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนย้ายฐานที่อยู่มาจากจังหวัดกาญจนบุรี สาเหตุที่เรียกว่า บ้านวังยาง เพราะคำว่า “วังยาง” มาจากสภาพพื้นที่ของตำบลวังยางเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ยาง ประชาชนในพื้นที่ประกอบอาชีพตัดไม้ยางและทำน้ำมันที่ได้มาจากต้นยาง และมีพื้นที่ติดริมฝั่งแม่น้ำปิงทำให้มีแพซุงของพ่อค้าไม้จากทางเหนือล่องมาเป็นจุดพักแพซุงเพราะมีคุ้งน้ำกว้าง เหมาะแก่การพักแพขนาดใหญ่ ซุงส่วนใหญ่เป็นไม้ยาง และเป็นท่าน้ำที่นำไม้ยางที่ตัดจากหมู่บ้านมาขึ้นแพที่ท่าน้ำทำให้คนส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่า “วังยาง” และทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจ คนจีนเข้ามาค้าขาย จนกลายเป็นตลาดคนจีนในที่สุด (แต่ปัจจุบันตลาดดังกล่าวได้เลิกล้มหายไปกว่า ๒๐ ปีแล้ว) และบริเวณต้นไทรดังกล่าว ก็กลายเป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ของคนจีนตลอดเรื่อยมาถึงปัจจุบัน อาทิ วันตรุษจีน งานสารทจีน เป็นต้น
ปัจจุบันบริเวณต้นไทรต้นนี้ชาวบ้านร่วมกันตั้งศาลเจ้าแม่ไทรงาม (เรียกชื่อตามต้นไทรขนาดใหญ่ต้นนี้) ตั้งอยู่คู่กับศาลเจ้าพ่อปู่ดำ เป็นที่เคารพบูชาของคนในหมู่บ้านตลอดจนนักท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เข้ามาในหมู่บ้าน โดยในช่วงวันตรุษจีนของทุกปี บริเวณต้นไทรต้นนี้จะถูกใช้เป็นลานกิจกรรมจัดงานตรุษจีนประจำปี มีงานเฉลิมฉลองติดกันถึง ๓ วัน ๓ คืน มีงานแสดงลิเก รำวงย้อนยุค ตลาดคนจีน ฯลฯ ซึ่งจัดงานต่อเนื่องกันมากว่า ๕๐ ปีแล้ว ต้นไทรต้นนี้มีต้นดั้งเดิมเป็นต้นจามจุรี หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า ต้นก้ามปู ต่อมามีต้นไทรที่มีลักษณะเป็นไม้อิงอาศัยเติบโตบนต้นไม้อื่น แทงรากเข้าเนื้อเยื่อไม้ต้นก้ามปู และแทงรากลงลึกต่อในดิน พร้อมด้วยใช้ราก และลำต้นโอบรัดต้นก้ามปูเอาไว้ห่อหุ้มจนกลายเป็นต้นไทรที่มีขนาดใหญ่อายุกว่าร้อยปีในปัจจุบัน กอรปกับความเชื่อที่ว่าเจ้าพ่อปู่ดำที่เป็นสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง เป็นที่เคารพนับถือของหมู่บ้านอยู่มาเป็นเวลานานแล้ว เมื่อมีต้นไทรมาอายุกว่า ๑๐๐ ปีต้นนี้ตั้งอยู่คู่กัน สองสิ่งเหล่านี้จึงกลายเป็นที่เคารพบูชาของหมู่บ้านและเป็นสถานที่สำคัญเป็นศูนย์รวมจิตใจของชาวบ้านวังยางถึงปัจจุบัน ตั้งอยู่ ณ หมู่ ๑ บ้านวังยาง ตำบลวังยาง อำเภอคลองขลุง จังหวัดกำแพงเพชร
ตามประวัติหมู่บ้านกล่าวว่า ประชากรส่วนใหญ่เป็นคนไทยเชื้อสายจีนย้ายฐานที่อยู่มาจากจังหวัดกาญจนบุรี สาเหตุที่เรียกว่า บ้านวังยาง เพราะคำว่า “วังยาง” มาจากสภาพพื้นที่ของตำบลวังยางเนื่องจากพื้นที่ส่วนใหญ่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้ยาง ประชาชนในพื้นที่ประกอบอาชีพตัดไม้ยางและทำน้ำมันที่ได้มาจากต้นยาง และมีพื้นที่ติดริมฝั่งแม่น้ำปิงทำให้มีแพซุงของพ่อค้าไม้จากทางเหนือล่องมาเป็นจุดพักแพซุงเพราะมีคุ้งน้ำกว้าง เหมาะแก่การพักแพขนาดใหญ่ ซุงส่วนใหญ่เป็นไม้ยาง และเป็นท่าน้ำที่นำไม้ยางที่ตัดจากหมู่บ้านมาขึ้นแพที่ท่าน้ำทำให้คนส่วนใหญ่เรียกกันติดปากว่า “วังยาง” และทำให้บริเวณนี้กลายเป็นแหล่งเศรษฐกิจ คนจีนเข้ามาค้าขาย จนกลายเป็นตลาดคนจีนในที่สุด (แต่ปัจจุบันตลาดดังกล่าวได้เลิกล้มหายไปกว่า ๒๐ ปีแล้ว) และบริเวณต้นไทรดังกล่าว ก็กลายเป็นสถานที่ในการจัดกิจกรรมต่างๆ ของคนจีนตลอดเรื่อยมาถึงปัจจุบัน อาทิ วันตรุษจีน งานสารทจีน เป็นต้น
ปัจจุบันบริเวณต้นไทรต้นนี้ชาวบ้านร่วมกันตั้งศาลเจ้าแม่ไทรงาม (เรียกชื่อตามต้นไทรขนาดใหญ่ต้นนี้) ตั้งอยู่คู่กับศาลเจ้าพ่อปู่ดำ เป็นที่เคารพบูชาของคนในหมู่บ้านตลอดจนนักท่องเที่ยวอื่นๆ ที่เข้ามาในหมู่บ้าน โดยในช่วงวันตรุษจีนของทุกปี บริเวณต้นไทรต้นนี้จะถูกใช้เป็นลานกิจกรรมจัดงานตรุษจีนประจำปี มีงานเฉลิมฉลองติดกันถึง ๓ วัน ๓ คืน มีงานแสดงลิเก รำวงย้อนยุค ตลาดคนจีน ฯลฯ ซึ่งจัดงานต่อเนื่องกันมากว่า ๕๐ ปีแล้ว