ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 12° 28' 54.0001"
12.4816667
ลองจิจูด (แวง) : E 102° 4' 25"
102.0736111
เลขที่ : 193822
ตำนานสิงโตคู่แหลมสิงห์
เสนอโดย จันทบุรี วันที่ 16 มิถุนายน 2564
อนุมัติโดย จันทบุรี วันที่ 16 มิถุนายน 2564
จังหวัด : จันทบุรี
0 608
รายละเอียด

ตำนานสิงโตคู่ที่แหลมสิงห์มีที่มาจากภูเขาลูกหนึ่งชื่อ ‘เขาแหลมสิงห์’ ตั้งอยู่บริเวณปากน้ำจันทบุรี การที่เรียกชื่อเขาลูกนี้ว่าเขาแหลมสิงห์นั้นเพราะด้านหน้าเขามีหินเป็นแก่งเกาะยื่นล้ำออกไปในทะเล และในบรรดาก้อนหินเหล่านี้ มีอยู่ 2 ก้อนลักษณะคล้ายตัวสิงโต มีหัว มีลำตัว มีหาง มีเท้า และดวงตา มีขนาดลำตัวยาว 6 เมตร กว้าง 1.5 เมตร สูงจากพื้นน้ำทะเล 2.5 เมตร ยืนคู่กันล้ำเข้าไปในทะเล สิงโตคู่นี้เป็นที่สักการะนับถืออย่างยิ่งของชาวประมง คำโบราณปรัมปราเล่าว่าเมื่อก่อนนี้ไม่มีสิงโตคู่นี้ แต่กล่าวกันว่าบนเขาแหลมสิงห์มีสิงโตจริงๆ อยู่คู่หนึ่ง สิงโตตัวผู้ตัวเมียคู่นี้ไปไหนด้วยกันเสมอ และลงอาบน้ำทะเลด้วยกันทุกวัน ต่อมาฝรั่งเศสพวกหนึ่งคอยดักทำร้ายสิงโตนี้ โดยใช้วัตถุระเบิดชนิดหนึ่ง สิงโตตัวหนึ่งถึงแก่ความตาย อีกตัวหนึ่งวิ่งหนีลงทะเลทัน ตัวที่หนีลงทะเลไปนั้น เมื่อตายในน้ำแล้วก็มากลายรูปเป็นสิงโตศิลายืนหยัดอยู่ริมทะเล ส่วนตัวที่ถูกยิงตายอยู่ที่ริมฝั่งทะเล เหลือเพียงแต่ซากหินปรักหักพังยืนข้างศิลาตัวใหญ่ พอจะจับสังเกตเป็นเค้าได้ มีแววเป็นรูปสิงโตได้บ้าง” (คณะกรรมการฝ่ายประมวลเอกสารและจดหมายเหตุฯ 6 รอบ 5 ธันวาคม 2542. ประวัติศาสตร์ท้องถิ่น: ความเป็นมาของอำเภอสำคัญในประวัติศาสตร์ภาคตะวันออก และ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ. หน้า 58-59)

โขดหินรูปสิงโตหมอบที่ปากอ่าวจันทบูร ภาพวาดลายเส้นโดย ซาบาติเยร์ จากรูปสเก็ตช์ของมูโอต์

นอกจากนี้ยังมีอีกตำนานอีกสำนวนหนึ่งเล่าว่า “แหลมสิงห์เป็นชื่อของภูเขาลูกหนึ่งที่มีบางส่วนยื่นออกไปในทะเลเป็นแหลม ตรงปลายแหลมมีหินซ้อนกันเป็นกลุ่มก้อน เมื่อมองจากทะเลจะเห็นคล้ายสิงโตยืนอยู่ ๒ ตัว ชาวบ้านจึงเรียกแหลมนี้ว่า แหลมสิงห์ในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ายึดครองจันทบุรี ได้ใช้หินก้อนหนึ่งที่ดูคล้ายสิงโตนั้นเป็นเป้าทดลองปืนจนหินส่วนนั้นแตกสลายที่เหลืออีกก้อนหนึ่งนั้นคือส่วนที่คล้ายหัวสิงโตก็หักหลุดตกน้ำไป” (สารานุกรมวัฒนธรรมไทย ภาคกลาง. กรุงเทพฯ : มูลนิธิสารานุกรมวัฒนธรรมไทย ธนาคารไทยพานิชย์, 2542. หน้า 7241)

ข้อแตกต่างของสองสำนวนคือ สำนวนแรกเล่าว่า สิงโตคู่เคยเป็นสิงโตที่มีชีวิตมาก่อน ต่อมาถูกพวก“ฝรั่งเศส”ฆ่าตายจึงกลายมาเป็นหิน ส่วนสำนวนหลังเหมือนจะเชื่อว่าหินพวกนี้เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ แต่มาถูกทำลายไปส่วนหนึ่งด้วยฝีมือชาว“ฝรั่งเศส”ที่ใช้มันเป็นที่ลองปืน ซึ่งคล้ายกับตำนานที่เล่าขานต่อกันมาว่าทหารฝรั่งเศสของนโปเลียนคือผู้ที่ใช้ปืนใหญ่ยิงจมูก“สฟิงซ์แห่งกีซา”จนเสียหาย

แต่บันทึกของอ็องรี มูโอต์นักสำรวจชาวฝรั่งเศสได้เล่าไว้ว่า “วันที่ ๓ มกราคม ปี ๑๘๕๙[พ.ศ. 2402]หลังจากแล่นผ่านอ่าวจันทบูรท่ามกลางท้องทะเลที่มีคลื่นลมแรงจัด เราก็เห็นหินรูปสิงโตอันลือชื่อ ตั้งโดดเด่นเป็นเครื่องหมายบ่งบอกว่าถึงสุดปลายแหลมของอ่าว มองจากไกลๆ เหมือนสิงโตกำลังหมอบ เราแทบไม่เชื่อเอาเลยว่าเป็นฝีมือของธรรมชาติแต่เพียงฝ่ายเดียวที่ปั้นแต่งหินก้อนมหึมาเป็นรูปทรงชวนฉงนเช่นนี้ นี่เป็นผลจากการกัดเซาะของน้ำทะเล ขัดผิวหินจนเรียบเนียนเป็นรูปทรงอย่างที่เห็น เราถึงเข้าใจว่าเหตุใดชาวสยามจึงเคารพบูชาหินก้อนนี้อย่างลึกซึ้ง เช่นเดียวกับสิ่งอื่นๆ ที่เขาเห็นเป็นของพิเศษหรือแปลกมหัศจรรย์ มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งเมื่อเรืออังกฤษเข้ามาทอดสมอในอ่าวจันทบูร พอกัปตันเรือเห็นสิงโตหินนี้เข้าก็ขอซื้อ แต่เจ้าเมืองไม่ยอมขายให้นายอังกฤษไร้เมตตาคนนั้นถึงกับระดมยิ่งใส่ ‘เจ้าสัตว์น้อยผู้น่าสงสาร’ จนหมดชุดกระสุนเรื่องนี้กวีสยามผู้หนึ่งนำไปจดจารไว้ในผลงาน เป็นพยานร้องทุกข์ต่อความใจหินของคนเถื่อนจากแดนตะวันตก” (บันทึกการเดินทางของอ็องรี มูโอต์ ในราชอาณาจักรสยาม กัมพูชา ลาว และอินโดจีนตอนกลางส่วนอื่นๆ. กรุงเทพฯ : มติชน, 2558. หน้า 111.)

ดังนั้น ความเสียหายที่เกิดกับหินสิงโตคู่แห่งแหลมสิงห์จึงน่าจะเกิดขึ้นก่อนการมาถึงของมูโอต์ และก่อนที่ฝรั่งเศสจะยึดจันทบุรีได้ แต่จะเป็นฝีมือของคนอังกฤษอย่างที่มูโอต์อ้างไว้หรือไม่นั้นยากจะบอกได้ (เพราะจริงๆ แล้ว หินสิงโตที่แหลมสิงห์อาจจะมีตัวเดียวแต่แรกก็ได้) ส่วนเหตุที่คนไทยผูกตำนานโทษว่าความเสียหายนั้นเกิดขึ้นจากฝีมือทหารฝรั่งเศส ก็อาจจะด้วยเหตุผลที่คล้ายๆ กับที่ชาวอียิปต์เล่าว่า จมูกสฟิงซ์เสียหายเพราะฝีมือทหารนโปเลียน ด้วยดินแดนทั้งสองแห่งต่างรู้สึกว่าตนถูกข่มเหงจากนักล่าอาณานิคมกลุ่มเดียวกัน

หมวดหมู่
อื่นๆ
สถานที่ตั้ง
สิงห์โตแหลมสิงห์
หมู่ที่/หมู่บ้าน 1
อำเภอ แหลมสิงห์ จังหวัด จันทบุรี
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
นิตยสารศิลปวัฒนธรรม
บุคคลอ้างอิง ผิน ทุ่งคา
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดจันทบุรี อีเมล์ chantaboon_culture@hotmail.com
ตำบล วัดใหม่ อำเภอ เมืองจันทบุรี จังหวัด จันทบุรี รหัสไปรษณีย์ 22000
โทรศัพท์ 039303298
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่