พิธีกรรม : ครอบมือหนังตะลุง
การครอบมือหนังตะลุง เป็นพิธีกรรมที่หนังตะลุง จัดขึ้นเพื่อแสดงการยอมรับนับถือครูหนังแต่ครั้งบุพกาลโดยเรื่องวิญญาณครูหนังแต่เก่าก่อน อันได้แก่ พระพิราบหน้าทองตานุ้ย ตาหนักทอง ตาเพชร และครูหนกครูลาย (ครูแกะสลัก) ยังคงวนเวียนดูแลสุขทุกข์ของนายหนังตะลุงทุกคณะหนังที่ออกโรงแสดงโดยไม่ผ่านพิธีครอบย่อมถูกลงโทษทัณฑ์จากครูดังกล่าวนี้ ในทางตรงข้าม หากผ่านพิธีโดยสมบูรณ์ย่อมได้รับการคุ้มครองให้มีความสุขสวัสดีและรุ่งเรืองในอาชีพ
การประกอบพิธีครอบมือ อาจมีขึ้นหลังจากผู้ประสงค์จะหัดหนังตะลุงเข้ามอบตัวต่อนายหนังอาวุโสซึ่งรับเป็นอาจารสอนวิชาเล่นหนังให้ หรืออาจจัดหลังจากหัดแสดงจนชำนาญพอโดยเลือกจัดในวันพฤหัสบดีข้างขึ้นของเดือน ๔ เดือน ๖ เลือน ๙ หรือเดือน ๑๑ วันใดวันหนึ่ง อุปกรณ์ในการประกอบพิธีนอกเหนือจากการแสดง ได้แก่
๑. ธูป ๙ เล่ม
๒. เทียน ๙ เล่ม
๓. หมากพลู ๙ คำ
๔. ดอกไม้ ๙ ดอก
๕. ใบยอ
๖. ใบเงิน ใบทอง
๗. ไม้แกระ ๑ คู่
๘. ผ้าขา ๑ คู่
๙. เครื่องสิบสอง
๑๐. บายศรี
๑๑. ไก่ปากทอง
๑๒. เป็ดปากทอง
๑๓. รูปหนังเนื้อเสี่ยงจับ ๕ ลำ
๑๔. รูปพระ นาง ฤๅษี ยักษ์
๑๕. เสนา ขันใส่น้ำ ภายในขันใส่มืดและหินลับมีด
บนโรงดาดผ้าเพดานขึงสายสิญจน์จากเพดานลงมายังพื้นโรงที่วางเครื่องสังเวย บางแห่งยังโยงสายสิญจน์จากดาดเพดานขึ้นไปยังหิ้งครูหมอหนังบนเรือนผู้จัดพิธีอุปกรณ์ต่าง ๆที่จัดขึ้นนอกจากใช้เพื่อ สังเวยครูแล้ว ยังจัดเพื่อเอาเคล็ด เช่น ใช้ใบยอเพื่อความมีชื่อเสียงเป็นขวัญประชาชน ใช้ใบเงินใบทองเพื่อความมั่งคั่ง คือมีเงินไหลมาเทมาจากการแสดง ใช้มีดโกนและหินลับมีดเพื่อความเฉียบแหลมคมคายสติปัญญาไหวพริบดีเป็นต้น
ในการประกอบพิธี ครูผู้ประกอบพิธีนุ่งขาวห่มขาวผู้เข้าพิธีแต่งธรรมดา การประกอบพิธีเริ่มแต่หัวค่ำวันเวลาที่ชาวบ้านเรียกว่า "ยามนกชุมรัง" โดยลูกคู่โหมโรงไปพักหนึ่ง ผู้ประกอบพิธีทำพิธีเบิกโรง นำดอกไม้ ธูปเทียนวางบนแกระ จุดธูปเทียนบูชาพระ ยกเครื่องเซ่นสังเวยครู การตั้งเครื่องเซ่นจะแยก ๒ ที่ สำหรับพระพิราบหน้าทองซึ่งมีศักดิ์เป็นเทพที่หนึ่ง และครูต้นอื่นๆ ซึ่งเป็นบริวารอีกที่หนึ่งจากนั้นเริ่มไหว้สัดดี เชื้อครู เชิญพระพิราบหน้าทองและบริวารเข้าสู่พิธีเบิกบายศรี เสร็จแล้วผู้เข้าพิธีกราบอาจารย์ผู้ประกอบพิธีให้พรแล้วให้เสี่ยงจับรูป โดยเอาผ้าห่อรูปสำหรับเสี่ยงจับให้โผล่แต่ไม้ดับ ให้ผู้เข้าพิธีปิดตาเลือกจับเอาเพียงตัวเดียว ได้รูปใดก็ทำนายตามคำโบราณ ซึ่งมีว่าถ้าจับได้รูปพระ (รูปพระราม) ต่อไปจะเป็นหนังดีชื่อเสียง มีชัยชนะแก่หนังทั้งปวงถ้าจับได้รูปนาง จะเป็นหนังที่อยู่ในความนิยมของสตรีแลลงหนังได้อ่อนหวาน แต่มีชื่อเสียงไม่เท่าที่ควรถ้าจับได้รูปฤาษี จะเป็นหนังที่ดีแต่สอนผู้อื่น แต่ตนเองทำได้ไม่เท่าที่สอนถ้าจับได้รูปยักษ์ จะไม่ค่อยมีชื่อเสียง และชอบใช้วิชาไสยศาสตร์กลั่นแกล้งหนังโรงอื่นถ้าจับได้รูปเสนา จะดีทางตลกขบขันเมื่อเสร็จการทำนายทายทักแล้ว อาจารย์จะยื่นรูปที่จับได้นั้นให้ผู้เข้าพิธีเชิดออกจอ เป็นเสร็จพิธี หลังจากนั้นก็อาจให้แสดงถือเป็นเรื่องสนุกกันมากว่า ไม่นับเนื่องในพิธีดังกล่าวแล้ว