วัดสละบาป วัดร้างที่ดูยังไงก็ไม่เหมือน..วัดร้าง

……………………………………

ยังคงเกาะติดกับเรื่องราวของวัดร้างต่อไป โดยวันนี้ แอดมินขอพาไปชมวัดร้างอีกหนึ่ง ที่เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ไม่รู้มาก่อนว่า วัดแห่งนี้มีสถานะเป็นวัดร้าง

เนื่องจากมีพระภิกษุจำพรรษาและพัฒนามาอย่างต่อเนื่องกว่า 30 ปี แล้ว วัดที่แอดมินกล่าวถึงนี้ก็คือ วัดสละบาป หรือวัดสาธุการาม ตำบลท่าข้าม อำเภอค่ายบางระจัน จังหวัดสิงห์บุรี

สำหรับประวัติของวัดสละบาป สร้างมาหลายร้อยปี ตามตำนานเล่าขานสืบต่อกันมาว่า เพื่อไถ่บาปจากการฆ่าพ่อของสิงหพาหุ ที่เกิดความอับอายที่ตนเองมีพ่อเป็นสิงห์ เลยวางแผนฆ่าพ่อตัวเอง

แต่หลังจากสำนึกได้จึงสร้างวัดขึ้นมาหลายแห่ง เพื่อชดใช้กรรมที่ตนเองทำปิตุฆาต..มีวัดพระนอนจักร์สีห์ วัดประโชติการาม วัดโพธิ์ศรี รวมถึงวัดสละบาปแห่งนี้ด้วย

วัดแห่งนี้เดิมชื่อวัดสระบาป(ใช้ "ร") มีหลวงพ่อลี่ หรือ พระครูวิริยสาร (สาลี่ ฐิตสีโล) อดีตเจ้าคณะอำเภอค่ายบางระจัน เข้ามาบูรณะ เมื่อปี 2494 โดยได้รับมอบหมายให้เป็นเจ้าอาวาสและเป็นผู้ทำหน้าที่สอนหนังสือพระ เณร และชาวบ้าน ตอนนั้นทางวัดมีดินเพียง 6 ไร่ แต่ล่าสุดได้ขยายพื้นที่ออกไปกว่า 100 ไร่เศษแล้ว จุดเด่นของวัดนี้ก็คือเต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น สงบ เงียบ เหมาะแก่การศึกษาและปฏิบัติธรรมเป็นอย่างยิ่ง

ปัจจุบัน ทางวัดกำลังก่อสร้างโบสถ์หลังใหม่ ที่ต้องบอกว่าใหญ่โตอลังการมาก ส่วนโบสถ์เก่าเป็นที่ประดิษฐานของหลวงพ่ออู่ทอง หรือที่ชาวบ้านนิยมเรียกกันว่า หลวงพ่อก๊ก พระพุทธรูปเก่าแก่สมัยอู่ทอง เป็นที่เคารพบูชาของชาวบ้านย่านนี้ รวมไปถึงประชาชนทั่วไป โดยแต่ละวันจะมีผู้คนเดินทางมาสักการะและแก้บนอยู่มิได้ขาด

ผู้เฒ่าผู้แก่แถวนั้นเล่าให้ฟังว่า สมัยเด็กๆ บริเวณนี้เป็นป่ารก ชาวบ้านนิยมนำวัว ควายมาเลี้ยง โดยมีพระพุทธรูปหลวงพ่อก๊ก ตั้งอยู่โคนต้นโพธิ์ อยู่องค์เดียว ต่อมาศีรษะหายไป ชาวบ้านจึงปั้นให้ใหม่ ซึ่งน่าจะเป็นสาเหตุหนึ่งให้พระพักต์ของหลวงพ่อก๊กแตกต่างจากพระพุทธรูปทั่วไป คือหน้าคล้ายพระเกจิ มากกว่าจะเป็นพระพุทธรูป

นอกจากนี้บริเวณโดยรอบ จะมีใบเสมาเก่าแก่ เป็นหินแกะสลัก ไม่ทราบอายุชัดเจน

ส่วนด้านหลังมีเนินหรือโคกเจดีย์เก่า 2 แห่ง มีซากปรักหักพังของอิฐ และร่องรอยโบราณสถานเก่า ที่บ่งบอกที่มาของตำนานที่เชื่อมโยงกันตั้งแต่ครั้งอดีต ถ้าขุดใต้ดินบริเวณวัดจะพบแต่อิฐเก่าและศิลาแลงเยอะมาก เรียกว่าแทบจะทุกพื้นที่เลยก็ว่าได้

วัดสละบาป เป็นวัดร้างอีกแห่งหนึ่งที่กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมยกฐานะขอเป็นวัดที่พระภิกษุจำพรรษาด้วยเช่นกัน