สาระสำคัญของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมโดยสังเขปการจุดถ้วยประทีปตีนกานั้น เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดดั้งเดิมในพื้นที่ตำบลลานดอกไม้ตก โดยมีความเชื่อว่านางกาเผือกมีไข่ ๕ ฟอง ถูกลมพายุพัดหอบไปตกในสถานที่ต่างๆ และมีสัตว์ ๕ ชนิด คือ ไก่ ราชสีห์ เต่า วัว และนาค เก็บรักษาไว้ จึงเกิดเป็นพระพุทธเจ้า ๕ พระองค์ ได้แก่ พระพุทธเจ้าพระนามว่ากกุสันธะ พระพุทธเจ้าพระนามว่าโกนาคมนะ พระพุทธเจ้าพระนามว่ากัสสปะ พระพุทธเจ้าพระนามว่าโคตมะและพระพุทธเจ้าพระนามว่าอริยเมตไตรย เพื่อให้ชาวพุทธได้ระลึกถึงแม่กาเผือกซึ่งเป็นผู้ให้กำเนิดพระมหาบุรุษของโลก ความเชื่อของชาวลานดอกไม้ตกเวลาจุดบูชาถ้วยประทีป จึงฝั้นด้ายเป็นลักษณะคล้ายตีนกาวางไว้ในภาชนะแล้วใส่น้ำมันจุดบูชาเป็นการระลึกถึงและกตัญญูกตเวทิตาแก่แม่กาประวัติความเป็นมาการจุดถ้วยประทีปตีนกา เป็นวัฒนธรรมที่สืบทอดมาจากปู่ ย่า ตายาย ซึ่มีอายุนับ ๑๐๐ ปี ในตำบลลานดอกไม้ตกนั้นนิยมจุดเครื่องบูชาคาถา เนื่องในวันสารทเดือน ๑๐ ซึ่งในการจุดประทีปนี้จะเริ่มต้งแต่การทำบุญในตอนเช้า หลังจากนั้นชาวบ้านจะช่วยกันดำด้ายดิบที่หามาได้ในพื้นที่ นำมารูดขี้ผึ้ง แล้วนำมาฝั้นให้เป็นเกลียว หลังจากที่ฝั้นแล้ว จะนำมาวางเพื่อเตรียมจุดในถ้วยประทีปดินเผา และใส่น้ำมันมะพร้าวลงไป เตรียมจุดบูชาในช่วงที่ประพระสงฆ์เริ่มสวดคาถาพัน ซึ่งน้ำมันที่เหลือจากการจุดถ้วยประทีปนั้น ชาวบ้านจะช่วยกันแบ่งปันนำไปทารักษาร่างกาย เวลาเจ็บปวด และในช่วงวันเพ็ญ เดือน ๑๒ ตรงกับวันลอยกระทง ชาวบ้านจะนำออกมาจุดถ้วยประทีปตีนกาอีกครั้ง เพื่อถวายเป็นพุทธบูชา หลวงพ่อโต ที่ประดิษฐานอยู่ที่วัดอมฤตวัสดุ1)เชือกฝ้าย 2)ขี้ผึ้ง 3)น้ำมันมะพร้าว 4)ขี้เทียน 5)เทียนไข 6)ถ้วยดินเผา 7)กะลา
กระบวนการผลิต1)นำเชื่อกมารูดขี้ผึ้ง และฝั้นเป็นตีนกา 2)นำไปวางกลางถ้วยประทีบดินเผา หรือกะลา 3)ใส่น้ำมันมะพร้าว หรือน้ำเทียน 4)ถ้าเป็นเทศกาลสารทเดือน 10 จะเป็นใส่น้ำมันพร้าวด้านล่าง 5)ถ้าเป็นประเพณีลอยกระทงใส่ขี้เทียน 6)ตกแต่งให้ตั้งตรงสวยสวยงาม
คุณค่าของมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมที่สำคัญการส่งเสริมคุณค่าด้านจิตใจ และความสามัคคีของคนในชุมชน ถือได้ว่าเป็นการสร้างศรัธาและเป็นเครื่องผสานการมีส่วนร่วมของคนในชุมชนซึ่งถือได้ว่าเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมมีการการดำเนินการเป็นประจำทุกปี
บทบาทของชุมชนที่มีต่อมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมการส่งเสริมการถ่ายทอดให้แก่สมาชิกรุ่นหลังในชุมชนให้สืบทอดการฝั้นตีนกาในถ้วยพุทธาประทีปของชุมชนเอาไว้ไม่ให้สูญหาย โดยให้คนรุ่นเก่าเป็นผู้สอนและถ่ายทอดเคล็ดลับในการผลิตให้แก่รุ่นหลานเกิดการรักษาเอาไว้สืบไป และถ่ายทอดสู่ลูกหลาน ในชุมชนของตน โดยใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในท้องถิ่น