งานปริวาสกรรมตามประเพณีของพระภิกษุภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เป็นกิจกรรมทำความดีตามความเชื่อศรัทธาในพุทธศาสนาของชาวไทยอีสาน เป็นงานบุญประเพณีหนึ่งในประเพณีฮีตสิบสอง หรือนิยมเรียกว่าบุญเข้ากรรม นิยมจัดงานในเดือนอ้าย เดือนเจียงของทุกปี เพื่อให้พระภิกษุที่ต้องอาบัติสังฆาทิเสสได้ปฏิบัติวุฏฐานวิธี ซึ่งเป็นระเบียบอันเป็นเครื่องออกจากอาบัติ พระภิกษุต้องอาบัติสังฆาทิเสส ต้องประพฤติมานัต 6 คืน ให้ภิกษุผู้ต้องอาบัติหมวดสังฆาทิเสสที่จะเข้าอยู่ปริวาสกรรมได้ชำระความมัวหมองของศีลให้แก่ตนเอง โดยต้องไปขอปริวาสจากสงฆ์ สงฆ์อนุญาตแล้ว เมื่อได้ประพฤติมานัตครบ 6 คืนแล้ว จะขออัพภานจากสงฆ์อีก เมื่อสงฆ์ให้อัพภานแล้วภิกษุรูปนั้นจึงจะได้ชื่อว่า “เป็นผู้มีศีลบริสุทธิ์”
บุญปริวาสกรรมหรือบุญเข้ากรรม คือบุญที่ทำขึ้นในเดือนอ้าย (เดือนเจียง) ซึ่งเป็นเดือนแรกของปีที่ชาวอีสานจะต้องประกอบพิธีบุญกันจนเป็นประเพณีซึ่งอาจจะเป็นข้างขึ้นหรือข้างแรมก็ได้ พิธีบุญนี้จะเกี่ยวกับพระโดยตรง ซึ่งความจริงน่าจะเป็นเรื่องของสงฆ์โดยเฉพาะ แต่มีความเชื่อกันว่าเมื่อทำบุญกับพระ ที่ทำพิธีนี้จะทำให้ได้อานิสงส์มาก ญาติโยมจึงคิดวันทำบุญเข้ากรรมขึ้น การเข้ากรรมของพระภิกษุสงฆ์นั้นเป็นเรื่องที่ถือปฏิบัติกันมาตั้งแต่โบราณกาล เป็นการทำเพื่อให้พระที่ต้องอาบัติที่หนักรองลงมาจากปราชิกทำพิธีวุฏฐานพิธี ซึ่งเป็นระเบียบอันเป็นเครื่องออกจากอาบัติ อันเป็นพิธีกรรมที่ทำให้จิตใจไม่หมองมัวหรืออีกนัยหนึ่งก็เพื่อระลึกถึงการกระทำอันเป็นบาปที่ทำมาตลอดเข้าพรรษา
ความสำคัญ/ประโยชน์ต่อวัฒนธรรม
1. เพื่อพระภิกษุ ซึ่งเป็นตัวแทนพระพุทธศาสนาได้เข้าร่วมกิจกรรมสำคัญ ในสถานที่อันจำกัด ไม่เปิดเผยต่อสาธารณชนโดยทั่วไป จนกว่าคณะสงฆ์จะเห็นสมควรให้ออก หรือจนกว่าจะถึงวันเวลาที่กำหนดไว้หรือจนกว่าจะประพฤติ เพื่อชำระศีลให้บริสุทธิ์ เพื่อที่ทำหน้าที่สืบทอด เผยแพร่ศาสนาต่อไป
2. เพื่ออุบาสก อุบาสิกกา และประชาชนทั่วไปได้มีความรู้และมีหลักธรรมในการปฏิบัติตน ในการดำรงชีวิต
3. ชุมชนได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์ประเพณีวัฒนธรรมไทยอันดีงามของท้องถิ่นตน
4. ประชาชนทุกคนมีส่วนร่วมในการดำเนินกิจกรรมเป็นหมู่คณะซึ่งเป็นแนวทางหนึ่ง ที่จะทำให้ประชาชนได้มีโอกาส ลด ละ เลิกอุบายมุข และสิ่งเสตติด ทั้งหลายทั้งปวง
5. สร้างจิตสำนึกให้กับเด็ก เยาวชน และประชาชนในเรื่องวัฒนธรรม จารีต ประเพณี หลักธรรม ทางพระพุทธศาสนา โดยการเข้าวัดฟังธรรม ร่วมทำบุญตักบาตร ถวายภัตตาหารแด่พระภิกษุสงฆ์
ผู้สืบทอด พระอธิการสมบัติ ลัทธคุโณ เจ้าอาวาสวัดป่าหนองชุม และคณะสงฆ์