พระเทพสุเมธมุนี (สง่า สกโก) ป.ธ. ๕ เป็นเจ้าอาวาสวัดโยธานิมิต และที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดตราด นามเดิม สง่า สุทธิวารี เกิดที่บ้านหนองคันทรง หมู่ ๔ ต.หนองคันทรง อ.เมืองตราด จ.ตราด เมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๔๗๓ บิดาชื่อ นายจันทร์ สุทธิวารี มารดาชื่อ นางหนิว ศิลาอาสน์ พออายุเข้าวัยเรียนก็ได้เข้าเรียนโรงเรียนวัดหนองคันทรง จนจบชั้นสูงสุด คือ ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ หลังจากเรียนจบแล้วก็ได้ช่วยพ่อแม่ทำงาน และไปอยู่วัดหนองคันทรงบ้าง เพื่อดูแลรับใช้ท่านลุง ยามว่างหัดอ่านเขียนเรียนภาษาขอม จนมีความชำนาญการอ่านออกเขียนได้ และชอบร้องเพลง ฝึกหัดร้องเพลงพื้นบ้าน เช่น ร้องขับเสภา,เพลงฉ่อย,เพลงแหล่,เพลงหนังตลุง,เพลงวณิพกพเนจร(เพลงขอทาน) จนมีความชำนาญพอสมควร จนถึงอายุ ๒๙ ปี ท่านขอลาพ่อแม่เข้าสู่ผ้ากาสาวพัตรอีกครั้ง โดยอุปสมบท เมื่อวันที่ ๓๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๐๒ ณ วัดหนองคันทรง ตำบลหนองคันทรง อำเภอเมืองตราด
การศึกษาทางธรรม
พ.ศ. ๒๕๐๔ สอบได้นักธรรมเอก
พ.ศ. ๒๕๐๘ สอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค
ตำแหน่ง / สมณศักดิ์
พ.ศ. ๒๕๑๕ เป็นเจ้าอาวาสวัดโบสถ์
พ.ศ. ๒๕๒๒ เป็นเจ้าคณะอำเภอเมืองตราด
พ.ศ. ๒๕๒๒ เป็นพระครูสัญญาบัตร ที่ พระครูวิบูลคณานุรักษ์
พ.ศ. ๒๕๒๙ เป็นเจ้าคณะจังหวัดตราด
พ.ศ. ๒๕๒๙ ได้รับพระราชทานสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะ พระวิมลเมธาจารย์
พ.ศ. ๒๕๔๑ เป็นพระราชาคณะ ที่ พระราชสุเมธาภรณ์
พ.ศ. ๒๕๔๗ เป็นพระราชาคณะที่พระเทพสุเมธมุนี
พ.ศ. ๒๕๕๔ เป็นที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดตราด
หลวงพ่อเป็นนักการศึกษา รักในการศึกษามาก บวชอายุมากแล้วยังเรียนจบนักธรรมชั้นเอก เรียนบาลีสอบได้เปรียญธรรม ๕ ประโยค และส่งเสริมการศึกษาทั้งเด็กและพระสงฆ์สามเณร โดยอนุเคราะห์
ให้เด็กได้อาศัยอยู่ในวัดเพื่อเรียนหนังสือจำนวนมาก และได้เปิดศูนย์การศึกษาก่อนเกณฑ์ โดยมีเด็กเล็กเด็กโต ทั้งไทยและไทยเกาะกงได้เข้ามาเรียนเป็นจำนวนมาก และเปิดสอนมาเป็นเวลาหลายปี รวมทั้งเปิดเรียนบาลีจนมีพระภิกษุสามเณรสอบเป็นมหาเปรียญได้หลายรูปและนักเรียนในวัดสอบได้เปรียญธรรม ๔ ประโยค ถึง ๓ รูป และสามารถเขียนได้ทั้งมือซ้ายมือขวา อีกทั้งยังเขียนหนังสือสวยทั้งภาษาไทย ภาษาขอม ประกอบกับมีความสนใจภาษาต่างๆ นอกจากภาษาไทยแล้วท่านพอพูดสนทนาได้อีก ๔ ภาษา (อังกฤษ - จีน - ฝรั่งเศส - กัมพูชา) หลวงพ่อเป็นนักเผยแผ่ มีความถนัดในการแสดงธรรม โดยเฉพาะเทศน์มหาชาติ เรื่องพระเวสสันดรชาดก พร้อมทั้งมีความสามารถเทศน์ได้หมด ๑๓ กัณฑ์
ด้านการสาธารณูปการ
หลวงพ่ออดีตเคยเป็นช่างมาก่อน จึงมักสร้างกุฏิศาลาและสิ่งก่อสร้างต่างๆ โดยการออกแบบด้วยภูมิปัญญาตัวเอง และหลวงพ่อก็ร่วมก่อสร้างด้วยตลอด ส่วนสาธารณประโยชน์ที่หลวงพ่อได้บำเพ็ญเป็นประจำคือชอบทำยาแจก โดยหลวงพ่อมียาสมุนไพร คนทั่วไปเรียกยานี้ว่า ขี้ผึ้งวัดโบสถ์
เป็นการปรุงจากสมุนไพรอันมีรังผึ้ง (ไม่มีตัวแล้ว) น้ำมันงา,เมนท่อล,พิมเสนเป็นหลัก ประกอบด้วยต้นไม้ ใบหญ้าต่างๆ หลายอย่าง หลวงพ่อจะแปะกระดาษหน้าตลับยาว่า เภษัทสรรพคุณ บรรเทาอาการต่างๆ ตา หู จมูก ปวดท้อง เบาหวาน ปาก ฟัน เจ็บคอ ไอ หลอดลม ริดสีดวง พิษร้อนต่าง ๆปรุงที่วัดโยธานิมิต จ.ตราด จากเดิมที่หลวงพ่อทำแจก แต่ต่อมาคนต้องการมากเข้าก็ต้องใช้ทุนทำมากทั้งในจังหวัดและต่างจังหวัด ก็เลยให้คนบูชาช่วยเหลือค่าต้นทุนบ้าง ต่อมาในระยะ ๒-๓ ปีมานี้หลวงพ่อไม่ค่อยสบาย ป่วยบ่อย แพทย์ได้ตรวจพบว่า หลวงพ่อเป็นโรคถุงลมโป้งพอง และในช่วงหลังๆ หลวงพ่อก็เข้าโรงพยาบาลบ่อย ในช่วงสุดท้ายหลวงพ่อได้เข้ารักการรักษาที่โรงพยาบาลตราด วันที่ ๕ สิงหาคม ๒๕๖๔ ด้วยโรคถุงลมโป่งพอง ร่วมกับติดเชื้อในปอด และได้ถึงมรณภาพโดยอาการสงบ ณ โรงพยาบาลตราด วันที่ ๑ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖๔ สิริรวมอายุ ๙๑ ปี ๑ เดือน พรรษา ๖๒ พรรษา