ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 17° 13' 13.3738"
17.2203816
ลองจิจูด (แวง) : E 102° 26' 58.2796"
102.4495221
เลขที่ : 99962
นิทาน เรื่อง นางผมหอม
เสนอโดย หนองบัวลำภู วันที่ 20 มิถุนายน 2554
อนุมัติโดย nongbualamphu_admin วันที่ 16 พฤศจิกายน 2554
จังหวัด : หนองบัวลำภู
0 1579
รายละเอียด

ถ้ำเอราวัณ อยู่ในเขตพื้นที่อำเภอนาวัง จังหวัดหนองบัวลำภู ห่างจากเส้นหนองบัวลำภู-เลย ตามทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 210 ไปทางทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร จะพบภูเขาหินปูน (ภูโดด) ตั้งอยู่ภายในจะมีถ้ำขนาดใหญ่และมีบันไดขึ้นลงประมาณ 621 ชั้น ภายในถ้ำจะมีหินงอกหินย้อยสวยงามวิจิตรพิสดารมาก ถ้ำนี้ถ้ามองภายในถ้ำขึ้นข้างบนจะทะลุฟ้าคล้ายหอดูดาว และสามารถมองดูทิวทัศน์บริเวณใกล้เคียงได้อย่างเหมาะสม ถ้ำนี้เป็นสถานที่เกิดนิทานพื้นบ้าน เรื่อง "นางผมหอม" ซึ่งมีการเล่าสืบต่อกันมาอย่างต่อเนื่อง ตามประวัติความเป็นมาเล่าว่า เจ้าเมืองนครศรีมีพระธิดานามว่า "นางสีดา" วันหนึ่งนางเที่ยวชมป่าไม้และเกิดหลงทางกลางป่า และกระหายน้ำมากจึงดื่มน้ำในรอยเท้าพญาช้างสาร ก่อน พอเดินต่อไปกระหายน้ำอีกจึงดื่มในรอยเท้าวัวกระทิง ปรากฏว่านางสีดาตั้งครรภ์ และถึงเวลาคลอดลูกได้หญิงฝาแฝด คนพี่เชื้อสายพญาช้างสาร มีนามว่านางผมหอม เพราะเส้นผมของนางมีกลิ่นหอม คนน้องมีเชื้อสายวัวกระทิงมีนามว่านางลุน เพราะเกิดมาทีหลังจึงได้นามว่านางลุน เมื่ออายุได้ 13 ปี ได้ออกตามหาบิดาไปในป่า ต่อมาทั้งสองได้พบพญาช้างสารแต่ไม่รับเป็นลูกทั้งสองคน พญาช้างสารได้พิสูจน์ด้วยการอธิฐานให้เด็กทั้งสองไต่บนงาของตนใครข้ามไปได้จึงจะเป็นลูก ผลปรากฏว่านางผมหอมไต่งาช้างข้ามไปได้ ส่วนนางลุนไต่งาช้างและก้าวเท้าพลาดาตกมาศีรษะกระแทกพื้นเสียชีวิต พญาช้างสารได้พานางผมหอมไปอาศัยอยู่ในถ้ำช้าง (ถ้ำเอราวัณ) จนกระทั่งนางผมหอมเจริญวัยโตเป็นสาวลงเล่นน้ำและเสี่ยงทายเพื่อหาคู่ครอง โดยการนำเอาปอยผมและสารเสี่ยงทายบรรจุลงในผอบแก้วแล้วอธิฐานลอยน้ำไป จนกระทั่งถึงเมืองเป่งจาน ขุนไทกษัตริย์ผู้ครองนครเก็บผมนั้นได้ และออกตามหานางผมหอมจนพบกันที่ถ้ำเอราวัณแห่งนี้ เมื่อทั้งสองพบกันก็เกิดความรักใคร่เสน่หาซึ่งกันและกัน ทั้งสองครองรักกันจนมีบุตรธิดาด้วยกัน 2 คน คือ คนพี่เป็นชายนามว่า "สีลา" คนน้องเป็นหญิงนามว่า "ชาดา" ต่อมาทั้งสองได้พาบุตรธิดาหนีพญาช้างสารจะไปอยู่เมืองเป่งจานนคร ฝ่ายพญาช้างสารได้ออกตามหาลูกและหลานจนพบ ด้วยความเสียใจที่ถูกลูกและหลานทิ้งไปอยู่เมืองอื่นจึงขาดใจตาย ก่อนตายได้ได้มอบงาของตนให้ขุนไทไว้เป็นอาวุธ เพื่อป้องกันตนเอง ขณะที่กำลังเดินทางและพักแรมจนกว่าจะถึงเมืองเป่าจานนครนั้น ปรากฏว่าเส้นทางนั้นมีนางผีป่าเฝ้าอยู่และเกิดความเสน่หาในขุนไท เมื่อนางผมหอมอาบน้ำจึงถูกนางผีป่าผลักตกน้ำไป และนางผีป่าก็แปลงตนเองเป็นนางผมหอมแทนโดยที่ขุนไทไม่รู้ตัว เมื่อเมืองเป่งจานนครนางผีป่าก็เข้าอยู่ในวังด้วยกับขุนไทในช่างระยะเวลาหนึ่ง แต่เนื่องจากพฤติกรรมของนางผีป่าแปลงแตกต่างกันกับนางผมหอมจริง เมื่อขุนไททราบความจริงจึงหาทางกำจัดนางผีป่า และไปรับนางผมหอมมาอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ต่อมาได้ไปเยี่ยมมารดาที่เมืองนครศรีเป็นช่วงที่นางสีดาขึ้นครองเมืองแล้ว ขุนไท นางผมหอม และบุตรธิดาจึงกลับปกครองเมืองเป่าจานสืบมา ตำนานนี้ต่อมาบันทึกไว้กลายเป็นวรรณกรรม หนังสือผูกใบลาน เขียนเป็นตัวหนังสือไทยน้อยใช้อ่านในงันเฮือนดี ต้นฉบับไม่เห็นที่นำมาบันทึกได้จาก จารุบุตร เรืองสุวรรณ นับเป็นวรรณกรรมที่มีสถานที่เกิดอยู่ในเขตพื้นที่หนองบัวลำภู

สถานที่ตั้ง
สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดหนองบัวลำภู
ถนน หนองบัวลำภู - เลย
ตำบล ลำภู อำเภอ เมืองหนองบัวลำภู จังหวัด หนองบัวลำภู
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
สำนักงานวัฒนธรรมอำเภอนาวัง
บุคคลอ้างอิง นายวรวิทย์ รัตนมาลี
ชื่อที่ทำงาน สวจ.หนองบัวลำภู
ถนน หนองบัวลำภู - เลย
ตำบล ลำภู อำเภอ เมืองหนองบัวลำภู จังหวัด หนองบัวลำภู รหัสไปรษณีย์ 39000
โทรศัพท์ 042316729 โทรสาร 042316730
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่