นายอุมาร์ กาซอปัจจุบันอาศัยอยู่บ้านเลขที่ ๒๗/๑ ตำบลอาเนาะรู อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี เกิดวันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๐๗ อายุ ๔๘ ปี มีความสามารถในการทำว่าววงเดือน
ว่าววงเดือน หรือเรียกว่า“วาบูแล”เป็นว่าวที่มีรูปดวงเดือนเป็นส่วนประกอบอยู่ตรงกลางลำตัว ส่วนประกอบที่สำคัญ คือ ปีก เขา (คล้ายเขาควาย) และดวงเดือนซึ่งอยู่ตรงกลางระหว่างปีกและเขาและตอนกลางของลำตัว ว่าววงเดือน มี ๒ แบบคือ แบบมีแอก และแบบไม่มีแอกความเป็นมาของว่าวบางคนบอกว่าว่าวมาจากประเทศมาเลเซีย และบางคนบอกว่ามาจากจังหวัดปัตตานี จึงสรุปไม่ได้ว่าว่าวมาจากที่ไหน นายอุมาร์ กาซอ เป็นช่างฝีมือพื้นบ้านเป็นผู้ผลิตว่าววงเดือน ได้เรียนรู้และรับการสืบทอด วิชาการทำว่าวจากบิดา มาตั้งแต่อายุ ๒๘ ปี และด้วยความที่มีใจรักในการทำว่าวทำให้เกิดอาชีพ และยังมีการถ่ายทอดวิชาการทำว่าวให้กับเด็กและเยาวชนในชุมชน
การทำว่าววงเดือนเริ่มจากการเตรียมวัสดุอุปกรณ์และเครื่องมือ จากนั้นทำการเหล่าไม้ไผ่ และเตรียมประกอบไม้ไผ่ นำกระดาษลอกลายมาวางไว้ แล้วแปะลงบนไม้ไผ่ที่ประกอบ ทำการเขียนลาย และทำการลงสี เสร็จแล้วผูกเชือกบนตัวว่าว เก็บรายเอียดของว่าว ทำการตกแต่ง ชั่งน้ำหนักขนาดปีกของว่าวให้เท่ากัน เก็บรายละเอียดอีกครั้ง เป็นอันเสร็จเรียบร้อยสมบูรณ์ ระยะเวลาในการผลิตประมาณ ๓ วัน ต่อว่าว ๑ ตัว ลักษณะพิเศษของว่าวเป็นการสะท้อนถึงอัตลักษณ์ทางด้านศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น เช่น ลวดลายของว่าวและการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์ของภาคใต้ ปัจจุบันมีผู้นิยมเล่นว่าวเป็นจำนวนมาก แต่ช่างฝีมือการทำว่าวมีน้อยมาก นายอุมาร์ กาซอ เป็นหนึ่งในจำนวนนั้นที่ยังคงสืบสานงานช่างภูมิปัญญาไทยไว้ คุณค่าและประโยชน์ของการเล่นว่าวคือ เป็นกีฬาที่มีการละเล่นมาช้านาน รวมทั้งบ่งบอกเอกลักษณ์ของความเป็นไทยได้ดี เป็นการฝึกใช้ความสามารถทางศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ ความอดทน ความมีไหวพริบ และเป็นกีฬาที่สร้างความสามัคคี