วัตถุดิบและส่วนประกอบ
๑. คล้าสด
๒. หวาย
๓. ไม้ไผ่
๔. ไม้เนื้ออ่อน (ไม้ยอป่า ไม้มูก ไม้มะกอก หรือก้านตาล)
๕. เหล็กหมาด (เหล็กแหลม)
๖.ที่ขูดตอก
๗. ที่จักตอก
๘. มีดตอก
๙. กรรไกร
๑๐. ดินสอ
๑๑. เชือกไนล่อน
ขั้นตอนการผลิต
ขั้นที่ 1 การคัดเลือกต้นคล้า
ต้นคล้าที่นำมาทำกระติบข้าวคือ คล้าที่ไม่แก่จัดการคัดคล้าทีมีอายุพอเหมาะจะทำให้กระติบข้าวมีความคงทนและสวยงาม
ขั้นที่ 2 การเตรียมเส้นตอก
การเตรียมเส้นตอกสำหรับสานกระติบข้าวนั้นจะไม่เหมือนไม้ไผ่เพราะจะลอกเอาแต่ผิวหรือเปลือกของต้นคล้าเท่านั้น เริ่มจากนำคล้ามาตัดเป็นท่อนขนาดความยาวของชิ้นงาน ปลอกเอาแต่ผิวด้านนอก ซอยเป็นเส้นขนาดให้สมดุลกับชิ้นงาน แล้วนำเส้นตอกไปตากแดดให้แห้ง ประมาณ 7 วัน หรือจนตอกเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลทอง ถ้าตอกไม่แห้งสนิทจะทำตอกเกิดเชื้อรา สีไม่สวย
ขั้นที่ 3 การสานลายสอง
การก่อกระติบข้าวเป็นขั้นตอนแรกของการขึ้นโครงกระติบข้าว เริ่มจากนับจำนวนตามขนาดของกระติบ รีดให้แบนเรียบ ก่อด้วยสานลายสอง ส่วนนี้จะอยู่ตรงกลาง ล่างหรือบน ก็แล้วแต่ความถนัดของผู้สาน เมื่อก่อหรือสานจนครบแล้ว ก็จะนำปลายของทั้งสองด้านมาเชื่อมกันให้เป็นวงกลมเพื่อที่จะสานขึ้นโครงเป็นตัวกระติบข้าวต่อไป
ขั้นที่ 4 การขึ้นโครง
การขึ้นโครงเป็นการสานลายสองในแนวตั้งขั้นตอนนี้ผู้สานสามารถทำลวดลายให้สวยงามได้ด้วยการสานสลับลายต่างๆเช่น ลายสองเวียน ลายสองยืน ลายสองคลุบ ลายสาม ลายข้างกระแต เป็นต้นหรือผู้ที่มีความชำนาญก็จะสามารถขึ้นลายเป็นตัวอักษรภาษาต่างๆได้หลังจากสานจนได้ความสูงตามต้องการแล้วก็จะเป็นการม้วนเก็บปลายเส้นตอกเพื่อไม่ให้หลุดลุ่ยเสียหายและแลดูสวยงาม ก็จะเป็นอันเสร็จ 1 ฝา ซึ่งกระติบข้าว 1 ลูกจะใช้ 2 ฝา
ขั้นที่ 5 การพับและการจัดรูปทรง
การพับคือการนำชิ้นงานตามขั้นตอนที่ 4 มาพับปลายทั้ง 2 ด้านเข้าหากัน แล้วพับส่วยปลายของ ชิ้นงานเป็นลิ้นประมาณ 2 เซนติเมตร เพื่อรอการเย็บฝาปิดหรือ “ตุ” การพับนี้จะให้ด้านผิวที่เป็นมันของเส้นตอกอยู่ด้านนอกเพื่อความคงทนสวยงาม ในขั้นตอนนี้จะเป็นการกำหนดรูปทรง หลังจากพับแล้วก็ดัดตัวชิ้นงานให้เป็นรูปต่างๆตามต้องการเช่น รูปทรงกลม รูปวงรี รูปหัวใจ เป็นต้นตามลักษณะการใช้งาน
ขั้นที่6 การเตรียมเส้นตอกสานฝาปิดหรือฝาตุ
การเตรียมเส้นตอกสานฝาปิดหรือฝาตุ จะใช้เส้นตอกที่สั้นกว่าตัวกระติบข้าว มาสานลายสองหรือลายตาแหลว หรือลายอื่นๆ ก็ได้ ให้เป็นแผ่นให้ได้ขนาดกับตัวกระติบข้าว จากนั้นก็นำฝาที่ที่พับแล้วตามขั้นตอนที่ 5 มาวัดขนาดแล้วตัดตามรูปทรงที่ต้องการ ขั้นตอนนี้สามารถจะใช้ตอกไม้ไผ่สานเป็นแผ่นเสริมความแข็งแรงได้
ขั้นที่7 การเตรียมหวายเย็บ
เส้นหวายที่จะนำมาเย็บ นั้นจะเลือกหวายที่มีอายุแก่จัด มาซอยออกเป็นเส้น ตามขนาดพอเหมาะกับชิ้นงานเหลาให้เรียบ สม่ำเสมอ ความยาวประมาณ 2 เมตร ถ้ายาวเกินไปจะทำให้การเย็บช้าเพราะมีช่วงการดึงสอดที่ยาว ถ้าไม่พอก็สามารถต่อได้ การต่อเส้นหวายต้องมีเทคนิคการเก็บเงื่อนปลายเพื่อความสวยงาม (สามารถใช้ด้ายพีวีซีแทนได้)
ขั้นที่8 การทำฐานรอง
การทำฐานรอง หรือขาตั้ง หรือตีนแล้วแต่จะเรียก จะทำจาก ก้านต้นตาล ก้านค้นลาน หรือไม้เนื้ออ่อน ที่มีคุณสมบิติ ที่ดัดง่าย เช่น ไม้ยอป่า ไม้มูก ไม้มะกอก เป็นต้น โดยนำไม้หรือก้านต้นตาลมาทำเป็นแผ่นบางประมาณ กว้างประมาณ ๔-5 เซนติเมตร แล้วม้วนปลายทั้ง 2 ด้านเข้าหากันเป็นวงกลมตามขนาดของกระติบข้าว ใช้หวายยึดปลายเอาไว้ รอการเย็บติดตัวกระติบ
ขั้นที่ 9 การเย็บเข้ารูป
ขั้นตอนการเย็บนี้ จะใช้หวายที่ทำเป็นเส้นเย็บส่วนประกอบที่ทำไว้ตามขั้นตอนต่างๆ คือตัวกระติบ ฝาปิดหรือตุ ขาตั้งหรือตีน เข้าด้วยกัน จากนั้นก็ตกแต่งขอบด้วยตอกคล้าถัก เป็นลวดลายให้สวยงาม เช่นลายจูงนาง ลายหางสิงห์ เป็นต้น จากนั้นจะลงสีเคลือบเงาก็ได้ตามความชอบ เท่านี้ก็จะได้กระติบที่สมบูรณ์สวยงาม และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมปัจจุบันชาวบ้านขี้เหล็กสามารถพัฒนารูปแบบงานหัตถกรรมจากต้นคล้าได้หลากหลายเช่น กระติบข้าวรูปทรงต่างๆ กล่องใส่กระดาษชำระ กระเป๋าสตรีรูปแบบต่างๆ เป็นต้น