ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 14° 4' 19.9348"
14.0722041
ลองจิจูด (แวง) : E 102° 48' 43.6626"
102.8121285
เลขที่ : 198017
น้ำพริกกะสัง อำเภอตาพระยา “๑ จังหวัด ๑ เมนู เชิดชูอาหารถิ่น”
เสนอโดย สระแก้ว วันที่ 3 สิงหาคม 2566
อนุมัติโดย สระแก้ว วันที่ 3 สิงหาคม 2566
จังหวัด : สระแก้ว
0 1041
รายละเอียด

น้ำพริกกะสัง อำเภอตาพระยา “๑ จังหวัด ๑ เมนู เชิดชูอาหารถิ่น”

ประวัติความเป็นมา :บ้านกะสัง ตำบลทัพไทย อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว มีประชากรราวประมาณ 400 คน เป็นหมู่บ้านในพื้นที่ชายแดนติดกับประเทศกัมพูชา และความเชื่อทางขนบธรรมเนียม โบราณประเพณีขอมเป็นส่วนใหญ่ แรกเริ่มนั้น มีการอพยพผู้คนมาจากทางจังหวัดนครราชสีมาและพื้นที่อื่นๆ ทำให้ในพื้นที่มีการใช้ภาษาในการสื่อสารที่มีสำเนียงของทางโคราชและเขมรปะปนอยู่โดยทั่วไป โดยมีเรื่องเล่าของการก่อตั้งหมู่บ้านมาแต่โบราณ เชื่อกันว่าสมัยก่อน จะมีต้นกะสังขนาดใหญ่อยู่ในพื้นที่บริเวณนี้ และมีสระน้ำแหล่งน้ำขนาดใหญ่ ซึ่งเส้นทางนี้เป็นเส้นทางการคมนาคม ระหว่างเดินทางก็จะมีการพักผ่อนและหยุดพักกินน้ำบริเวณสระน้ำขนาดใหญ่นี้ ประกอบกับมีต้นกะสังใหญ่ จึงมีการเรียกขานบริเวณที่ตั้งแห่งนี้ว่าบ้านกะสัง จนมาเป็น บ้านกะสังในปัจจุบัน ซึ่งในพื้นที่มีต้นกะสังจำนวนมาก

การเริ่มบริโภคหรือนำลูกกะสังมาประกอบอาหาร ไม่ปรากฏแน่ชัดว่ามีมาแต่เมื่อใด แต่สันนิษฐานว่ามีมาตั้งแต่แรกเริ่มสมัยบรรพบุรุษ โดยเป็นการประกอบอาหารซึ่งใช้ส่วนประกอบในพื้นที่ และเป็นอาหารที่ปรุงง่ายใช้ต้นทุนต่ำ เนื่องจากเป็นพื้นที่ห่างไกลความเจริญ วิถีชีวิตการประกอบอาหารจึงเรียบง่ายใช้วัตถุดิบที่สามารถหาได้ง่ายในพื้นที่ แต่มีประโยชน์และคุณค่าทางโภชนาการ

วัตถุดิบและเครื่องปรุง :ต้นกะสังและลูกกะสัง เป็นต้นไม้ยืนต้นซึ่งพบได้มากเป็นพิเศษในพื้นที่เขตอำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว แต่สามารถพบได้บ้างในเขตอำเภออื่นๆ หรือภูมิภาคอื่นๆ ผลกะสังมีสีเขียวคล้ายผลมะนาวกลม มีขนาดประมาณ 2.5 นิ้ว หรือประมาณ 1กำปั้น เมื่อแก่จัดจะมีสีน้ำตาล เปลือกแข็งและหนามากมีความหนาประมาณ 1 เซนติเมตร มีเมล็ดจำนวนมาก สามารถนำมาเพาะพันธุ์ต่อได้ อีกทั้งส่วนผลมีรสเปรี้ยวนำมาใช้ปรุงรสแทนมะนาวหรือประกอบอาหารได้ทั้งการทำน้ำพริกกะสัง หรือใส่ในอาหารอื่นๆ เช่น แกงต่างๆ หรือต้มเห็ด ต้มปลา

นอกจากนั้น สามารถนำมาใช้ได้เกือบทั้งต้น ทั้งนำมาเป็นอาหาร ส่วนผสมของยาบรรเทาอาการต่าง ๆ นอกจากจะได้ความสวยงามจากการนำมาทำเป็นไม้ประดับที่มีความงามแล้วนั้น ยอดอ่อนและใบอ่อน สามรถทานสดหรือนำมาปิ้งให้หอมก่อนทานได้ เปลือกสามารถต้มน้ำรับประทาน และใช้รักษาโรคตาเปื่อย ตาอักเสบ ในวัว กระบือ ได้

ส่วนประกอบในน้ำพริกกะสังเหล่านี้ สามารถรับประทานได้ทุกวัย โดยสามารถปรับลดปริมาณสัดส่วนของส่วนผสม แต่ละอย่างลงได้ตามความเหมาะสม เนื่องจากเป็นพืชสมุนไพรที่ใช้อยู่ในชีวิตประจำวัน แต่ละครัวเรือน จึงสามรถบริโภคได้โดยทั่วไป ตามปริมาณที่เหมาะสม

ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม :ต้นกะสัง เป็นต้นที่เกิดและเติบโตได้เองในธรรมชาติ ซึ่งมีมากบริเวณพื้นที่อำเภอตาพระยา แต่ก็สามารถที่จะทำการปลูกได้ แต่เนื่องจากต้นกะสังจะมีขนาดต้นที่สูงและมีหนามแหลม จึงไม่นิยมปลูกในบ้าน โดยต้นกะสังส่วนใหญ่จะอยู่ตามป่าและทุ่งนาของชาวบ้าน ทำให้ชาวบ้านในพื้นที่ช่วยกันอนุรักษ์ต้นกะสังไม่ให้สูญหายไปจากชุมชน จะไม่ตัดต้นกะสังทิ้ง หรือทำลายทิ้ง แต่จะปล่อยไว้ให้เจริญเติบโตไปตามธรรมชาติ เพราะอนาคตจะสามารถนำผลผลิตของต้นกะสังมาใช้ในการประกอบหาร และเป็นพืชสมุนไพรได้ โดยสามารถใช้ได้ทุกส่วน ตั้งแต่ ราก เปลือกลำต้น ใบ และผลของลูกกะสัง ต้นกะสังบางต้นสูงได้ถึง 10 เมตร และมีอายุยืนนานถึง 50-60 ปีเลยทีเดียว

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ :นางไพลวรรณ พูพิลึก ๐๖๕-๕๔๐-๙๖๑๒

สถานที่ตั้ง
บ้านกะสัง
เลขที่ 81 หมู่ที่/หมู่บ้าน 8
ตำบล ทัพไทย อำเภอ ตาพระยา จังหวัด สระแก้ว
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
สภาวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว
บุคคลอ้างอิง กษิดิส อุดมสุวรรณ์ อีเมล์ sakaeo.culture70@gmail.com
ชื่อที่ทำงาน สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสระแก้ว
ตำบล ท่าเกษม อำเภอ เมืองสระแก้ว จังหวัด สระแก้ว
โทรศัพท์ 037425029 โทรสาร 037425030
เว็บไซต์ https://sakaeo.m-culture.go.th
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่