นางยุพา แสงประไพ ภูมิปัญญาด้านอาชีพ เทียนหอมแฟนซี เกิดวันที่ ๒๔ สิงหาคม พ.ศ.๒๔๙๘ จบการศึกษาระดับประถมที่โรงเรียนมัธยมอนุกูลวิทยา ต่อมาสมรสกับนายอุบล แสงประไพ มีบุตรชาย ๑ คน คือนายอดิศร แสงประไพ กำลังศึกษาอยู่ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๕ ที่โรงเรียนบ้านหมอ “พัฒนานุกูล” วันที่ ๒๘ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๙ นายอุบล แสงประไพ ผู้เป็นสามีประสบอุบัติเหตุทางรถจักรยานยนต์เสียชีวิต ทำให้นางยุพา ต้องเลี้ยงบุตรชายวัย ๖ ขวบ มาโดยลำพังอย่างยากลำบาก นางยุพา ทำงานทุกอย่างที่สามารถหาเงินได้ไม่ว่าจะเป็นกุ๊กโรงแรมลพบุรีอินน์, แม่ครัวโรงเรียนอนุบาลบ้านหมอ(พัฒนราษฎร์), ขายของตามตลาดนัด, แม้แต่งานก่อสร้างนางยุพาก็เคยทำ จนบุตรชายนายอดิศร แสงประไพในตอนนั้นกำลังศึกษาอยู่ในชั้นประถมปีที่ ๕ ได้จัดทำโครงงานเทียนตะไคร้หอมไล่ยุงและแมลง เข้าร่วมการแข่งขันงานพัฒนาวิชาการนักเรียนจังหวัดสระบุรี โดยมีอาจารย์ทวีป มหาวิจิตร์เป็นที่ปรึกษา ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๑ ระดับจังหวัด ทำให้ได้มาบอกต่อนางยุพา ผู้เป็นแม่ ในตอนแรกก็เป็นแค่เพียงเทียนตะไคร้หอมใส่กระบอกไม้ไผ่ธรรมดาขายก็ไม่ได้ จนนางยุพา ได้ไปเรียนทำเทียนรูปดอกไม้เพิ่มที่ดอนเมือง แต่ก็เป็นแค่เพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นเพราะเสียเงินไป ๖,๐๐๐ บาท แต่กับได้ดอกไม้เพียงดอกเดียว ทำให้นางยุพาต้องไปหาหนังสือการทำเทียนหอมมาอ่านแล้วก็ลองประดิษฐ์ฝึกฝนเอาเองจนพัฒนาขึ้นมาก ทำให้นางยุพาจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาชื่อกลุ่มว่า “กลุ่มพัฒนาอาชีพเทียนหอมแฟนซีสมุนไพรไล่แมลง” เป็นหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ ของตำบลบ้านหมอ ในปี พ.ศ.๒๕๔๓ ต่อมารัฐบาลได้มีการสนับสนุนโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เข้ารับการคัดสรรสินค้า OTOP ได้ ๔ ดาว ระดับประเทศ และได้รับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์ชุมชน (มผช.) ว่าสินค้าของเราไม่เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค ต่อมาสินค้าก็มีการพัฒนาให้ดีขึ้นจนได้มีการส่งออกต่างประเทศไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น, ฮ่องกง, แคนาดา, สหรัฐอเมริกา และอีกหลายๆ ประเทศ ราคาส่งเริ่มต้นที่ ๑ – ๒๐๐ บาท มีสมาชิกภายในจังหวัดและต่างจังหวัดรวมประมาณ ๒๐๐ คน

กระบวนการ/ขั้นตอนการผลิต

กระบวนการผลิต จะเป็นกรรมวิธีการประดิษฐ์ด้วยมือประกอบกับการใช้วัสดุอย่างง่ายๆ การประดิษฐ์เทียนหอมให้ได้รูปแบบต่างๆ ล้วนต้องมีเทคนิคในการทำที่แตกต่างกันออกไป ซึ่งพอสรุปกรรมวิธีได้ ๗ วิธีดังนี้

๑. เทคนิคการหล่อจากแบบ วิธีการนี้แบ่งได้เป็น ๓ ประเภท คือ

๑.๑ ประเภทหล่อ กดแบบ กรรมวิธีนี้ต้องมีแบบพิมพ์ประเภทถาดสำหรับเทน้ำเทียนลงในถาด (ถาดอลูมิเนียม ถาดสเตนเลส และเมลามีนทิ้งไว้จนน้ำเทียนแข็งตัว แต่ยังพอตัดได้ ใช้พิมพ์กดรูปต่างๆ กดลงบนแผ่นเทียน พร้อมกับปักไส้เทียนในจุดที่ต้องการ

๑.๒ ประเภทหล่อโดยไม่ถอดแบบ กรรมวิธีนี้จัดได้ว่าง่ายที่สุด เพียงหาภาชนะกระเบื้องเคลือบ กระเบื้องดินเผา ไม้ พลาสติกหรือโลหะชนิดต่างๆ เทน้ำเทียนที่หลอมเหลวไว้ใส่ในภาชนะทิ้งไว้ให้เทียนแข็งตัวแต่ยังไม่แข็งมาก ปักไส้เทียนตรงกลาง ทิ้งให้เทียนแข้งทั้งก้อน ไม่ต้องถอดออกจากภาชนะ ใช้จุดได้พร้อมภาชนะ

๑.๓ ประเภทหล่อถอดแบบ กรรมวิธีนี้ใช้แบบพิมพ์จากวัสดุชนิดต่างๆ ได้แก่ พลาสติก สังกะสี สเตนเลส อลูมิเนียม ยางพารา ซิลิโคน ฯลฯ เป็นแม่พิมพ์ในการหล่อเทียน การใส่ไส้เทียนจะใส่ในแม่พิมพ์ก่อนเทเทียนลงในพิมพ์ เมื่อเทียนแข็งตัวร้อยเปอร์เซ็นต์ จึงถอดเทียนออกจากแบบ วิธีการถอดจากแบบ ถ้าเป็นแม่พิมพ์โลหะจะถอดจากพิมพ์ด้วยความร้อน หรือความเย็นวิธีใดวิธีหนึ่งขึ้นอยู่กับรูปทรงของแม่พิมพ์ ถ้าเป็นแม่พิมพ์พลาสติกจะถอดแบบด้วยความร้อน และถ้าเป็นแม่พิมพ์ยางพารา และซิลิโคนจะดึงแม่พิมพ์ยางออกจากชิ้นงานได้เลย

๒. เทคนิคการชุบ วิธีการนี้เป็นเสมือนการตกแต่งแท่งเทียนให้สวยงาม และแปลกตายิ่งขึ้น โดยใช้วัสดุต่างๆ เช่นกระดาษ ดอกไม้แห้ง ดอกไม้ใบสด ฯลฯ ชุบน้ำเย็นหรือน้ำร้อน ติดที่ลำเทียน จากนั้นนำลำเทียนแท่งนั้น ชุบน้ำเทียนหอมทันทันที(จุ่มแล้วขึ้นเลย หรือตักน้ำเทียนราด)

๓. เทคนิคการปั้น วิธีนี้จะต้องเทน้ำเทียนใส่ถาด ทิ้งให้แข็งตัวพอปั้นได้จึงทำเทียนมาปั้นเป็นรูปแบบต่างๆ เช่น ปั้นเป็นรูปดอกไม้ ตุ๊กตา ตัวสัตว์ ฯลฯ

๔. เทคนิคการตีให้ขึ้นฟู วิธีนี้ใช้หลักการตีน้ำเทียนด้วยช้อนส้อมให้อากาศเข้าไปผสมกับเทียน ลักษณะเทียนที่ได้จะเริ่มเป็นฟองและฟูขึ้นเป็นปุย จึงนิยมทำเลียนแบบไอศกรีมและขนมบางชนิด เช่นขนมถ้วยฟู ขนมปุยฝ้าย

๕. เทคนิคการแกะสลัก วิธีนี้จะใช้เครื่องมือในการแกะสลักชนิดต่างๆ รวมทั้งมีดแกะสลัก แกะสลักเทียนขณะยังอุ่นและนิ่มอยู่ นิยมแกะเป็นดอกไม้และรูปตัวสัตว์แต่ถ้าเทียนแข็ง จะแกะด้วยเครื่องรีดดอกไม้ (ใช้ความร้อน)

๖. เทคนิคผสม วิธีนี้เป็นการทำเทียนโดยใช้วิธีการที่กล่าวข้างต้นผสมกัน เช่นการทำเทียนไอศกรีมต้องหล่อเทียนเป็นชั้นๆ ลงในถ้วยซึ่งใช้เทคนิควิธีการหล่อ จากนั้นเทียนส่วนบนใช้เทคนิคการตีให้ขึ้นฟู หรือการทำเทียนพีระมิด มีลวดลาย ลวดลายทำได้จากปั้นเทียนหรือกดด้วยแบบพิมพ์ แล้วนำไปติดที่พิมพ์พีระมิดด้านใน จากนั้นจึงเทเทียนใส่ในพิมพ์ ซึ่งเป็นวิธีการหล่อ

๗. เทคนิคพิเศษ วิธีนี้ส่วนใหญ่จะเป็นการตกแต่งเทียน เช่นการเพ้นท์สีบนผิวเทียน การใช้น้ำแข็งทำให้เกิดรูพรุน เทคนิควิธีการประดิษฐ์เทียนที่กล่าวมา เป็นการรวบรวมการประดิษฐ์ให้เป็นหมวดหมู่ เพื่อให้ครอบคลุมวิธีการที่จะประดิษฐ์เทียนหอมแฟนซีสมุนไพรในมุมกว้างๆ ซึ่งรูปแบบต่างๆ จะดัดแปลงไปตามที่ตลาดต้องการ โดย เฉพาะรูปแบบดอกไม้ซึ่งมีหลากหลาย ทั้งดอกกุหลาบ ดอกกล้วยไม้ ซึ่งเป็นเทคนิคการปั้นที่เป็นสินค้าเด่นของกลุ่ม