ร่วมแสดงความคิดเห็นกับเรา
ขอขอบคุณสำหรับการเยี่ยมชมเวบไซต์ m-culture.in.th

เราได้จัดทำแบบสำรวจแบบง่ายๆ เพื่อจะ
ได้ทราบถึงสิ่งที่ผู้เยี่ยมชมเวบไซต์เรา
ชอบและให้เราได้เรียนเกี่ยวกับคุณมากขึ้น
 
ละติจูด (รุ้ง) : N 14° 37' 40.0498"
14.6277916
ลองจิจูด (แวง) : E 100° 43' 25.8668"
100.7238519
เลขที่ : 162876
ดอกไม้ประดิษฐ์จากรังไหม(ดอกว่านกุมารทอง)
เสนอโดย warranittha chan-iam วันที่ 5 ตุลาคม 2555
อนุมัติโดย สระบุรี วันที่ 18 ตุลาคม 2555
จังหวัด : สระบุรี
0 205
รายละเอียด

ดอกไม้ประดิษฐ์จากรังไหม(ดอกว่านกุมารทอง)ดอกว่านกุมารทองหรือว่านเขียวหมื่นปี Chinese Evergreen เป็นไม้สกุลAglaonema หรือ เรียกว่าสกุลเขียวหมื่นปีเริ่มก่อตั้ง โดยนางกรองจิตต์ ขจรภัย และนางสาวกนกวรรณ กองสาสน ซึ่งเป็นประธานกลุ่ม และเลขานุการกลุ่ม การรวมกลุ่มครั้งแรกมีสมาชิกเพียง ๕ คน จนถึงปัจจุบันมีสมาชิกรวมทั้งสิ้น ๒๒ คน ซึ่งสมาชิกมีทั้งระดับผู้สูงอายุ แม่บ้าน เยาวชน ในหมู่บ้าน และหมู่บ้านใกล้เคียงรวมตัวกัน ผลิตสินค้าจนเป็นอาชีพหลักของหลาย ๆ ครอบครัวในตำบล ตลาดน้อย จากคำบอกเล่าจากผู้สูงอายุในตำบลตลาดน้อย เมื่อปลูกดอกว่านกุมารทองไว้ที่บ้านใด จะมีเงินทองไหลมาเทมา มั่งมีศรีสุข มีโชคลาภ ทำให้ครอบครัวนั้นมีแต่ความสุขความเจริญตลอดไป และยังเป็นดอกไม้ประจำตำบลตลาดน้อยอีกด้วย

ลักษณะหัวว่านเหมือนหอมหัวใหญ่ แต่มีขนาดใหญ่กว่าใน ใบเหมือนใบกล้วยแต่อวบน้ำและมีสีเขียวจัด ก้านใบขาวตรงโคนก้าน ปลายมีสีเขียว ท้องในมีสีขาว ดอกออกเป็นก้านช่อดอกชูตรงขึ้นไป ลักษณะดอกคล้ายกับดอกกระถิน เป็นพุ่มทรงกลมมีสีชมพูสดใสน่าดูยิ่งนัก

ประโยชน์เวลาออกดอกให้เก็บเอาเกสรของดอกมาผสมน้ำมันถั่วทาตัว ถือกันว่าเป็นการกระทำเพื่อความคงกระพันชาตรี ป้องกันอุบัติภัยอันตรายต่างๆ ได้อย่างชะงักแม้เกิดเหตุร้ายก็สามารถพาตัวเองหลุดพ้นจากวิกฤตกาลนั้น ๆ ได้อย่างปลอดภัย

วิธีปลูกหาดินร่วน ๆ มาผสมกับอิฐละเอียดเป็นเครื่องปลูก ควรเลือกวันอังคารเป็นวันปลูก หากได้วันอังคารเดือน ๖ ด้วยแสงจะเพิ่มความขลังยิ่งขึ้น น้ำที่จะรดในคราวแรกปลูก ควรเสกด้วยคาถา นะโมพุทธายะ สามครั้ง แล้วจึงนำไปหว่านที่เพิ่งลงดิน

ขั้นตอนการผลิต

1. ซื้อวัตถุดิบจากศูนย์ขยายพันธุ์ไหมที่ 6 อำเภอเฉลิมพระเกียรติ จังหวัดสระบุรี

2. นำรังไหม มาคัดขี้ไหมออกเพื่อป้องกันไม่ให้มดกัดกินรังไหม

3. นำรังไหมมาตัดเป็นกลีบโดยรังไหมหนึ่งรังจะตัดได้ 4 กลีบ

4. เมื่อตัดเป็นกลีบตามที่ต้องการแล้วก็นำไปแช่น้ำประมาณ 3 ชั่วโมง เพื่อให้รังไหมอิ่มตัว

5. ในการแช่น้ำต้องใช้น้ำฝนเท่านั้นเพราะน้ำอย่างอื่นไม่สะอาด

6. เมื่อแช่น้ำแล้วก็นำไปย้อมสี โดยสีที่ย้อมรังไหมนั้นต้องเป็นสีย้อมรังไหมโดยเฉพาะจะเป็นสีย้อมผ้าไม่ได้

7. นำรังไหมที่ย้อมแล้วไปตากแดด 1 วัน เมื่อแห้งแล้วก็นำมาคัดเลือกกลีบเอาเฉพาะกลีบรังไหมที่ดีเท่านั้น

8. การเข้าดอกจะต้องใช้กระดาษหน้าเดียวสีเขียวพันก้าน

9. ดอกใหญ่จะมีโคมไฟอยู่ภายในดอก ใช้ดอกเล็ก 400 ดอก และดอกขนาดกลาง จะมีดอกเล็ก 159 ดอก ดอกเล็กสุด มี 100 ดอก ดอกตูมมี 15 ดอก

10. ในการเข้าช่อเสร็จแล้วก็ต้องทำใบโดยใช้ใบสีเขียวแก่ ซึ่งเป็นสีเดียวกันกับต้นจริง คือ ดอกว่านกุมารทอง โดยตัดเป็นรูปเสี้ยวพระจันทร์ แล้วนำมาประกบกัน โดยมีขนาดของใบ คือใบขนาดเล็ก ขนาดกลาง และขนาดใหญ่ตามลำดับ เพื่อให้เหมือนกับธรรมชาติ

11. เมื่อทำใบเสร็จแล้วก็นำมาทากาว แล้วรอให้แห้ง และนำใบไปติดกับดอก โดยใช้ฟลอร่าเทปพัน

12. เมื่อทำใบเสร็จแล้วก็นำมาจัดกระถางโดยดอกตูมอยู่ข้างบนสุด และดอกใหญ่สุดอยู่ตรงกลาง และนำตัวนกรังไหมสีน้ำตาลมาติดกับใบ ซึ่งอยู่ด้านบนสุดมาติดจำนวน 2 ตัว เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมชาติมากยิ่งขึ้น

13. เมื่อจัดกระถางเสร็จแล้วก็ต้องนำพื้นล่าง โดยการนำรังไหมสีขาวมาทำเป็นพื้น โดยตัดครึ่งรังแล้วเรียงกันให้เป็นระเบียบให้กับพื้นที่ด้านล่าง แล้วก็นำแมงเต่าทองมาติดกับพื้นด้านล่าง จำนวน 2 ตัว ซึ่งแมงเต่าทองภายในมีการบูรหอมอยู่และยังสามารถนำไปติดตู้เย็นได้อีกด้วย

14. เมื่อจัดกระถางเสร็จแล้ว นำไปใส่ในกล่องไม้รัง ซึ่งภายในกล่องมีกระจกอยู่ด้านหลังซึ่งสามารถมองเห็นได้ทั้งด้านหน้าและด้านหลัง

สถานที่ตั้ง
เลขที่ 68/1 หมู่ที่/หมู่บ้าน 6
ตำบล ตลาดน้อย อำเภอ บ้านหมอ จังหวัด สระบุรี
รายละเอียดการเข้าถึงข้อมูล
สภาวัฒนธรรมตำบลบ้านหมอ
บุคคลอ้างอิง นายกิติศักดิ์ ขจรภัย
ตำบล ตลาดน้อย อำเภอ บ้านหมอ จังหวัด สระบุรี รหัสไปรษณีย์ 18130
แสดงความคิดเห็น
โปรด เข้าสู่ระบบ ก่อนทำการแสดงความคิดเห็น

ชื่อผู้ใช้
รหัสผ่าน
ยังไม่มีการแสดงความคิดเห็น
ข้อมูลที่แสดงในระบบนี้ จัดเก็บโดยนักวิชาการวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม หากมีข้อเสนอแนะหรือข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อวัฒนธรรมจังหวัด
       ข้อมูลนี้เป็นประโยชน์หรือไม่