ประวัติความเป็นมา
กะลา เป็นไม้มะพร้าวเนื้อแข็งบาง เป็นวัสดุที่มนุษย์นำมาใช้ประโยชน์และประดิษฐ์สิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ เพื่อช่วยให้เกิดความสะดวกสบายในชีวิตประจำวันมาตั้งแต่สมัยโบราณและในปัจจุบันนี้กะลามะพร้าวได้ถูกนำมาสร้างสรรค์ เป็นงานหัตถกรรมหลากหลายรูปแบบ เหมาะสมกับการใช้งาน เนื่องจากกะลามะพร้าวเป็นวัสดุจากธรรมชาติที่สามารถหาได้ง่ายในท้องถิ่น เป็นการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า กะลามะพร้าวมีลวดลายความงามตามธรรมชาติ รูปแบบเฉพาะที่สะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทย และภูมิปัญญาของ คนไทย ซึ่งในขณะนี้ทั่วโลกต้องการวัสดุจากธรรมชาติมาใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ เพื่อหลีกเลี่ยงสารพิษจากวัสดุสังเคราะห์ ดังนั้น งานหัตถกรรมจากกะลามะพร้าว จึงเป็นงานที่ได้รับความสนใจค่อนข้างมาก ทำให้มีกลุ่มหัตถกรรมกะลามะพร้าวเกิดขึ้นมากมายหลายกลุ่มด้วยกัน ปัจจุบันกะลามะพร้าว ถูกแปรรูปออกเป็นของใช้ในหลาย ๆ อย่างที่ให้เข้ากับสมัยในปัจจุบันและเพิ่มความน่าสนใจลงไปให้ตัวของกะลามะพร้าว จึงทำให้สินค้าจากกะลามะพร้าวเป็นที่สนใจ และสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้อย่างมากขึ้น เพิ่มคุณค่าจากกะลาที่ไร้ค่ามาเป็นผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ที่นอกจากจะทำเป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนแล้วยังสามารถประดิษฐ์เป็นเครื่องตกแต่งบ้าน เช่น โคมไฟ เครื่องประดับเครื่องแต่งกายของสุภาพสตรีเช่น กระเป๋าถือ เข็มขัด เข็มกลัด ปิ่นปักผม สร้อย ฯลฯ ซึ่งผลิตภัณฑ์เหล่านี้เป็นที่นิยมของชาวไทยและชาวต่างชาติ ทั้งยังสร้างรายได้ที่เพิ่มพูนให้แก่คนไทยที่ยากไร้ในชนบท
อำเภอดงเจริญ ประชาชนส่วนใหญ่ ประกอบอาชีพเกษตรกรรมและสามารถทำนาได้ ปีละ ๑ ครั้ง เมื่อเว้นว่างจากการทำนา จึงต้องหาอาชีพเสริมและเห็นวัสดุเหลือใช้ คือกะลามะพร้าว สามารถที่จะนำมาต่อยอดเป็นอย่างอื่นได้ เริ่มต้นจากผลิตเป็นของใช้ใน ครัวเรือน ต่อมาคิดประดิษฐ์ทำเป็นเครื่องประดับ เช่น ทำเข็มขัด สร้อยข้อมือ ต่างหู เข็มกลัดติดเสื้อ ยางรัดผม ปิ่นปักผม กระเป๋า เป็นต้น ผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวเป็นงานหัตถกรรม โดยช่างที่มีฝีมือจากชุมชนบ้านไดรัง ตำบลห้วยร่วม อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร คือ นายนิคม แก้วชาลี และ นางสุภาพ แก้วชาลี เป็นผู้ประดิษฐ์ และมีการปรับเปลี่ยนรูปแบบพัฒนาขึ้นให้มีความหลากหลาย กะลามะพร้าวเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถสะท้อนให้เห็นถึงภูมิปัญญาท้องถิ่น มีจุดเด่นอยู่ที่การสะท้อนถึงทักษะภูมิปัญญาของปราชญ์ท้องถิ่น วิถีชีวิต ตลอดจนวัฒนธรรมที่ดีงามของการเรียนรู้ เป็นงานฝีมือที่สามารถสร้างรายได้สู่ชุมชนจนกลายเป็นสินค้าผลิตภัณฑ์ CPOT จากกระทรวงวัฒนธรรม
วัตถุประสงค์
๑) นำวัสดุเหลือใช้ คือกะลามะพร้าว มาต่อยอดเป็นสิ่งของต่างๆสำหรับใช้งาน และเครื่องประดับ
๒) เพื่อสร้างรายได้ให้แก่ครอบครัว
วัสดุ/อุปกรณ์
๑) กะลามะพร้าว ๓-๔ ลูก
๒) กระดาษทราย
๓) เส้นหวาย
๔) กาว
๕) ด้าย
๖) ลูกปัดกะลา
กระบวนการ/ขั้นตอน (ทำอย่างไร)
๑) คัดเลือกมะพร้าวให้เหมาะสม โดยเลือกใช้มะพร้าว ๓-๔ ลูก
๒) ขัดผิวกะลา นำกะลาที่คัดแล้ว ขูดขุยมะพร้าวให้เกลี้ยงตัดด้านบนเพื่อนำน้ำและเนื้อมะพร้าวออกให้เหลือเฉพาะเนื้อกะลา จากนั้นนำไปขัดด้วยกระดาษทราย ให้ผิวกะลาเรียบทั้งในและนอกตัวกะลา
๓) ออกแบบแต่ละชิ้นงานวาดลวดลายตามต้องการ ให้สวยงาม แล้วนำมาเจาะรูทำส่วน ฝากระเป๋า
๔) นำลูกปัดกะลามาต่อเป็นฐานกระเป๋าให้กะลามะพร้าวสามารถตั้งวางได้และนำด้ายมา ผูกกับเส้นหวายเพื่อทำเป็นสายกระเป๋า
๕) นำกะละมะพร้าวประกอบเป็นกระเป๋า และเคลือบเงาเพื่อให้สวยงาม
สถานที่ตั้งขององค์ความรู้
บ้านนางสุภาพ แก้วชาลี เลขที่ ๑๗ หมู่ที่ ๒ ตำบลห้วยร่วม อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร
คุณค่าและบทบาทของวิถีชุมชนที่มีต่อองค์ความรู้เรื่องนี้
๑. คุณค่าขององค์ความรู้ทางวัฒนธรรม
- มีความรู้เกี่ยวกับวัสดุอุปกรณ์และขั้นตอนการทำผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว เพิ่มขึ้น
- การประยุกต์ใช้สิ่งของที่ไม่มีประโยชน์แล้วนำกลับมาผลิตเป็นสินค้า / ผลิตภัณฑ์ ออกจำหน่าย สร้างรายได้ให้กับชุมชน
๒. บทบาทของชุมชนในการสืบสาน รักษา ต่อยอด ขององค์ความรู้ทางวัฒนธรรม
- เพี่อให้ประชาชนในท้องถิ่น ได้มีความรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว
- เพี่อส่งเสริมการสร้างรายได้ให้แก่ชุมชน
การส่งเสริม สนับสนุนจากหน่วยงานภาครัฐ หรือภาคเอกชน หรือภาคประชาสังคม
- ได้รับการส่งเสริม สนับสนุนจากสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร เป็นผลิตภัณฑ์ CPOT และสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอดงเจริญ เป็น ผลิตภัณฑ์ OTOP
สถานภาพปัจจุบัน
๑. สถานะการคงอยู่ขององค์ความรู้
- มีการปฏิบัติอย่างแพร่หลาย
๒. สถานภาพปัจจุบันของการถ่ายทอดความรู้และปัจจัยคุกคาม
สถานการณ์ปัจจุบันของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา COVID -๑๙ ทำให้ไม่สามารถไปออกร้านแสดงผลิตภัณฑ์และจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว ส่งผลให้รายได้ลดลง
ข้อเสนอแนะ
- เด็ก และเยาวชน ในพื้นที่ตำบลห้วยร่วม อำเภอดงเจริญ ควรมีการเรียนรู้ รักษา ต่อยอดการทำผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าวให้ยังคงอยู่
ข้อมูลอ้างอิงบุคคล
ชื่อ-นามสกุล นางสุภาพ แก้วชาลี
ตำแหน่ง ภูมิปัญญาท้องถิ่น
ที่อยู่ บ้านเลขที่ - หมู่ที่ ๕ ตำบลห้วยร่วม อำเภอดงเจริญ จังหวัดพิจิตร
รหัสไปรษณีย์ ๖๖๒๑๐ เบอร์โทรศัพท์ ๐๖๓-๖๘๑๓๗๘๑
ข้อมูลอ้างอิงอื่นๆ
๑)https://wegophatthalung.comสืบค้นเมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕
๒) อรอนงค์ ทองปานดี, อุดมศักดิ์เดโชชัย, จิตติมา ดำรงวัฒนะ และเดโช แขน้ำแก้ว. (๒๕๖๐). การศึกษากระบวนการแปรรูปผลิตภัณฑ์จากกะลามะพร้าว กรณีศึกษา : กลุ่มหัตถกรรมกะลามะพร้าว บ้านคอกวัว หมู่ที่ ๑ ตำบลชัยบุรี อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง. กรุงเทพฯ : วารสาร มหาจุฬานาครทรรศน์ ปีที่ ๔ ฉบับที่ ๑.
ข้อมูลเจ้าของเรื่อง (ผู้สัมภาษณ์)
ชื่อ-นามสกุล นางสาวเบญจรัตน์ พรานระวัง
ตำแหน่ง นักวิชาการวัฒนธรรมปฏิบัติการ
หน่วยงาน/องค์กร สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดพิจิตร
ที่อยู่หน่วยงาน/องค์กร ศาลากลางจังหวัดพิจิตร (หลังเดิม) ถนนบุษบา
ตำบลในเมือง อำเภอเมืองพิจิตร จังหวัดพิจิตร
เบอร์โทรสำนักงาน ๐ ๕๖๖๑ ๒๖๗๕
ที่อยู่ บ้านเลขที่ ๓๗๑ หมู่ที่ ๑ ตำบลตะกุดไร อำเภอชนแดน จังหวัดเพชรบูรณ์
รหัสไปรษณีย์ ๖๗๑๙๐ เบอร์โทรศัพท์ ๐๘๑-๘๗๔๒๙๑๐