สุทธิกรรมชาดก เป็นวรรณกรรมคำสอนที่ใช้หลักธรรมในพระพุทธศาสนาและคติธรรมของสังคมเป็นเนื้อหาสำคัญในการแต่ง เป็นวรรณกรรมที่ไม่ปรากฏชื่อผู้แต่งแต่จากการสืบถามผู้สูงอายุทราบว่า ผู้แต่งคือพระอุดมปิฎกเปรียญ ๙ ประโยค อดีตเจ้าอาวาสวัดหงส์รัตนาราม กรุงเทพ-มหานคร ท่านเป็นชาวจังหวัดพัทลุง (ดู พระอุดมปิฎก) แต่งเรื่องนี้ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ ๔ พ.ศ.๒๔๐๖ แต่งด้วยคำประพันธ์๓ ชนิด คือ กาพย์สุรางคนางค์ ๒๘ กาพย์ฉบัง ๑๖ และกาพย์ยานี้ ๑๑
วรรณกรรมเรื่องนี้มุ่งสอนให้ผู้อ่านได้ปฏิบัติในสิ่งที่ดีงามตามคำสอนของพระพุทธองค์และคติธรรมของสังคม ผลที่ผู้แต่งคาดหวังไว้คือ เมื่อพุทธศาสนิกชนปฏิบัติตามเป็นส่วนมากแล้วความสงบสุขในสังคมก็บังเกิดขึ้น
สุทธิกรรมชาดกได้เค้าโครงเรื่องในการแต่งจากเรื่องมิตตามิตชาดก และเรื่องทุกัมมานิกชาดกในนิบาตชาดก เรื่องที่๑๓ ในปัญญาสชาดก การแต่งเริ่มต้นด้วยบทไหว้ครู ยอพระเกียรติพระมหากษัตริย์บูชาเทวดา และรำลึกถึงครูบาอาจารย์ที่ให้การอบรมสั่งสอน แล้วดำเนินเรื่อง จบด้วยบอกจุดประสงค์ในการแต่งว่าเพื่อให้เป็นคุณประโยชน์แก่กุลบุตรผู้แสวงหาความดีเนื้อเรื่องโดยย่อมีว่ากุฎุมพีคนหนึ่งเป็นผู้ประพฤติดีมีคุณธรรมมีบุตรชายคนหนึ่งชื่อสุทธิกรรม สุทธิกรรมคบเพื่อนไม่เลือกหน้าจนบิดาเป็นห่วง จึงได้สั่งสอนและทดลองให้ลูกชายได้ประจักษ์ว่าการคบมิตรต้องเลือกให้ดี ไม่เช่นนั้นจะพบกับความเดือดร้อนก่อนถึงแก่กรรม บิดาสุทธิกรรมได้สอนสุทธิกรรมไว้ว่าอย่าคบคน๔ พวก คือ ชาย ๓ โบสถ์ หญิง ๓ ตัว ศิษย์ร่ายครู และพระราชาไร้ความยุติธรรม เมื่อบิดาถึงแก่กรรม สุทธิกรรมต้องการทดสอบคำสอนของบิดาจึงคบคน ๔ พวกนี้ตามลำดับในที่สุดก็ได้ประจักษ์ว่าคน ๔ พวกนี้นำความเดือดร้อน และความเสื่อมเสียมาสู่ผู้ที่คบหาสมาคมด้วย สุทธิกรรมจึงเลิกคบคน ๔ พวกดังกล่าวนี้ ตอนที่ใกล้ชิดพระราชาไร้ความยุติธรรมสุทธิกรรมได้สอนข้อธรรมะในพระพุทธศาสนาแด่พระราชาไว้หลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องศีล ๕ เน้นไว้มากที่สุดเมื่อสอนเสร็จเดินทางออกจากเมืองไปโดยไม่ฟังคำขอร้องในการให้อยู่ในเมืองของพระราชาแต่ประการใด ด้วยผลแห่งความดีที่สร้างสมไว้ตลอดมา สุทธิกรรมจึงได้เป็นพระราชาปกครองประชาราษฎร์ให้อยู่เย็นเป็นสุขตลอดพระชนม์ชีพ